Data Loading...
ผ้ามัดย้อม Flipbook PDF
ผ้ามัดย้อม
228 Views
160 Downloads
FLIP PDF 1.05MB
โครงงานอาชีพ เรื่อง ผ้ามัดย้อม
จัดทำโดย ๑. น.ส.กชกร พุ่มระย้า ๒. น.ส.ทักษพร คำสิงห์ศรี ๓. น.ส.สุรัญญา ชินวงค์ ๔. น.ส.อมราพร อุโคตบุตร
ชั้นม.๕/๑๐ เลขที่๒๓ ชั้นม.๕/๑๐ เลขที๒่ ๔ ชั้นม.๕/๑๐ เลขที๔่ ๔ ชั้นม.๕/๑๐ เลขที๔่ ๕ เสนอ คุณครูวนิดา บุญพิเชฐวงศ์ (ครูชำนาญการพิเศษ)
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๒๐ อุดรธานี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก
บทคัดย่อ โครงงานเรื่องผ้ามัดย้อมเป็นโครงงานในหนึ่งกลุ่มสาระวิชาการงานอาชีพโดยจุดประสงค์ของคณะ ผู้จัดทำคือ ต้องการดัดแปลงเสื้อผ้าที่ใช้ได้มาทำเป็นผ้ามัดย้อม เนื่องจากในปัจจุบันเทรนด์เรื่องเสื้อผ้าวินเทจ และมัดย้อมกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากทางคณะผู้จัดทำเห็นว่าการทำเสื้อมัดย้อม เป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะสามารถสร้างรายได้สร้างความสามัคคีในหมู่คณะและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์จึงได้นำมาประกอบ การทำโครงงานอาชีพ ทางคณะผู้จัดทำขอขอบคุณครูผู้สอนที่ให้การสนับสนุนและให้คำแนะนำจนงานสำเร็จ ลุล่วงไปด้วยดี หากผิดพลาดประการใดทางคณะผู้จัดทำต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ
ข
สารบัญ เนื้อเรื่อง
หน้า
บทคัดย่อ
ก
บทที่ ๑ บทนำ
๑
- ที่มาและความสำคัญ - วัตถุประสงค์ - ผลทีค่ าดว่าจะได้รับ - ขอบเขตการศึกษา - งบประมาณ บทที่ ๒ เอกสารประกอบการศึกษา - ประวัติความเป็นมา - ขั้นตอนในการทำ - หลักการมัดผ้า บทที่ ๓ วัสดุอปุ กรณ์และวิธีการดำเนินงาน
๒
๗
- วัสดุและอุปกรณ์ - ขั้นตอนการดำเนินงาน บทที่ ๔ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
๑๐
บทที่ ๕ สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
๑๑
- สรุปผลการดำเนินงาน - อภิปรายผล - ประโยชน์ที่ได้รับ - ข้อเสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก
1
บทที่ ๑ บทนำ ที่มาและความสำคัญ ในปัจจุบันสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆมีราคาแพงผู้ปกครองและนักเรียนต้องได้รับภาระเสียค่าใช้จ่าย ในครอบครัวสูงและเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ไม่ดี การเงินไม่คล่องตัวจึงต้องใช้จ่ายกันอย่างประหยัด คณะผู้จัดทำโครงงานจึงเห็นว่านักเรียนก็สามารถที่จะหารายได้เสริมช่วยเหลือครอบครัวได้ จึงมีการจัดทำโครงงาน สร้างเสริมทักษะอาชีพในกลุ่มนักเรียนได้มีทักษะความรู้นำไปใช้ในการหารายได้เสริมระหว่างเรียนช่วยครอบครัว โดยคิดโครงงานอาชีพผ้ามัดย้อม ซึ่งเป็นงานอาชีพที่สามารถทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากและเพื่อเป็นการน้อมหลักเศรษฐกิจ พอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คณะผู้จัดทำโครงงานจึงได้ปรึกษากับครูผู้สอนและจัดทำโครงงานอาชีพ ผ้ามัดย้อมนี้ขนึ้ มา วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้นำความรู้ที่มีมานั้นนำมาทำผ้ามัดย้อมได้ 2. เพือ่ ให้สามารถมีรายได้เสริมในระหว่างเรียน 3. เพือ่ ปลูกฝังคุณธรรมพื้นฐาน ๘ ประการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ผลคาดว่าจะได้รับ 1. 2. 3. 4.
สามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถหารายได้เสริมจากการทำผ้ามัดย้อมได้ สามารถรู้จักการวางแผนได้รอบคอบมากขึ้น สามารถนำคุณธรรม ๘ ประการมาปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
ขอบเขตการศึกษา สถานที่ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ระยะเวลา เดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ –กันยายน ๒๕๖๓ จำนวนผู้จัดทำ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๑๐ จำนวน ๔ คน
งบประมาณ งบประมาณในการจัดทำประมาณ ๕๓๐ บาท
2
บทที่ ๒ เอกสารประกอบการศึกษา ประวัติความเป็นมาของผ้ามัดย้อม สันนิษฐานว่าการย้อมผ้ามีมากว่า ๑๐๐ ปีมาแล้ว มีการย้อมสีแหหรืออวน จับปลาเพื่อป้องกันการเปื่อย และเก่าง่าย โดยใช้ไม้มะเกลือมาต้มให้เกิดสี ต่อมาใช้เปลือกไม้ต่างๆ เช่น ไม้โกงกาง ไม้โปรงแดง ไม้โปรงดำ ไม้ตะบูน ไม้ตะบัน เป็นต้น แต่ที่เป็นที่นิยมกันมาก คือไม้โปรง กับไม้ตะบูน ซึ่งเรียกการย้อมนั้นว่า การย้อมผ้าน้ำกะเตา ซึ่งมีสีน้ำตาลอย่างเดียว การย้อมเสื้อผ้าในสมัยก่อนเกิดจากผู้ที่มีอาชีพตัดไม้ โดยตัดไม้แล้วทำให้ยางไม้ติดเสื้อผ้า ซักไม่ออก จึงเกิดการนำเปลือกไม้ มาต้มแล้วนำเสื้อผ้ามาย้อมซึ่งทำให้ใส่แล้วเย็น สบาย ผู้ที่มีอาชีพตัดไม้ และเผาถ่านจึงนิยมการย้อมเสื้อผ้า เพื่อนำไปใส่ในการ ประกอบอาชีพ ต่อมามีการฟื้นฟูพิพิธภัณฑ์เขายี่สาร จึงมีการคิดค้นเพื่อทำเป็นของที่ระลึกเวลามีนักท่องเที่ยว หรือนักศึกษา มาศึกษาค้นคว้าและมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เขายี่สาร โดยมีการสืบสานวัฒนธรรมภูมิปัญญาการย้อมผ้าด้วยเปลือกไม้ธรรมชาติ ซึ่งนำมาจากพืชป่าชายเลนที่มีอยู่ในท้องถิ่น มาจัดทำเป็นเสื้อ กางเกง ผ้าเช็ดหน้า กระเป๋า เป็นต้น โดยเรียนการมัดย้อมผ้า จากสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสมุทรสงครามและพัฒนามาเป็นลวดลายของตนเอง โดยแต่ละชิ้นงานไม่ซ้ำแบบใคร และยึดหลักการใช้สีธรรมชาติเป็นเอกลักษณ์สืบสานต่อมา
ขั้นตอนในการทำผ้ามัดย้อม ๑. การเตรียมผ้า ผ้าที่ใช้ทำผ้ามัดย้อมควรใช้เป็นผ้าสีขาวหรือผ้าสีอ่อน ผ้าที่มีขายตามท้องตลาดเป็นผ้าที่ผ่านการแต่งมาก่อน เพื่อให้ผ้าแข็งตัวและเป็นเงาเรียบ ผู้ผลิตจะแต่งและอาบผ้าด้วยสารเรซิ่นหรือแป้งใช้เป็นส่วนมาก สารตัวที่กล่าวมาข้างต้นนี้ นับว่าเป็นอุปสรรคต่อการแทรกซึมของน้ำสี ฉะนั้นก่อนจะลงมือย้อมสี ควรขจัดสิ่งเหล่านี้ออกให้หมดเสียก่อน แต่ถ้ามีสาร อาบผิวใส่จำนวนน้อยอาจทำความสะอาดได้ โดยการใช้ผงซักฟอกได้
3
๒. การเตรียมลายมัดย้อม ผู้ปฏิบัติผ้ามัดย้อมย่อมต้องการให้ลายที่เกิดขึ้นบนผ้าลายนั้นไม่ให้ซ้ำกับผู้อื่น ดังนั้นผู้ที่ปฏิบัติงานมัดย้อม จึงนำยางมาผูกผ้าของตนเองได้อย่างอิสระ โดยการให้ความคิดคำนึงถึงความสร้างสรรค์ ลายที่ออกมาย่อมเป็นงานที่ พึงพอใจของผู้ปฏิบัติเอง
๓. การเตรียมน้ำสำหรับย้อมผ้า การเตรียมน้ำสำหรับการย้อมผ้าควรกะปริมาณของน้ำให้เพียงพอกับการเจือจองของสีย้อมผ้า โดยนำน้ำเปล่าสะอาดไปต้มน้ำให้ได้อุณหภูมิพอประมาณ หากน้ำมีอุณหภูมิที่ร้อนจนเกินไปควรพักน้ำไว้ก่อน ให้น้ำอุ่นและนำมากรอกใส่ขวด ผสมน้ำอุ่นใส่ขวดที่เทสีไว้ แล้วนำมาเขย่าให้เข้ากัน
4
๔. สีย้อมผ้า สีย้อมผ้าจะช่วยให้ลวดลาย สีสันของผ้านั้นสวยงามมากยิ่งขึ้น และถ้าเราเลือกใช้สีที่ดีก็จะทำให้สีของผ้าที่ย้อมนั้น ติดทนนาน สีไม่ตก มีสีสันที่สดใส เป็นต้น
๕. วิธีการย้อม ละลายสีด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เติมน้ำเย็นให้ครบตามจำนวน ใส่เกลือลงไปตามลำดับ คนสารละลายให้เข้ากัน นำผ้าที่มัดไว้รองกับถุงพลาสติกและบีบสีที่ผสมไว้ใส่ผ้าให้ทั่ว หลังจากนั้นนำผ้าที่ย้อมเสร็จแล้วใส่ในถุงพลาสติกที่เตรียมไว้ และมัดปากถุงทิ้งผ้าไว้ ๑ คืน เพื่อให้ผ้าดูดซึมสีได้ทั่วหลังจากนั้นจึงนำไปซักน้ำให้สะอาด
5
๖. ขั้นตอนการทำผ้ามัดย้อม ๑. เตรียมวัสดุอุปกรณ์ ๒. นำน้ำสะอาดมาต้มน้ำ ๓. ละลายสีด้วยน้ำอุ่น ๔. ใส่น้ำให้ครบตามจำนวน ๕. ใส่เกลือ ๖. พักไว้ ๗. เตรียมผ้าที่มัดไว้แล้วใส่ลงในน้ำย้อม ๘. นำผ้าใส่ในถุงพลาสติก ๙. ล้างน้ำให้สะอาดแล้วแกะหนังยางออก ๑๐. ได้ลวดลายตามต้องการ
หลักการมัดผ้า การคิด ประดิษฐ์ลายผ้า ขึ้นอยู่กับจินตนาการและการสังเกตของแต่ละคน ซึ่งการมัดแต่ละครั้งหรือแต่ละคนนั้น ลายของผ้าที่ได้จะไม่เหมือนกัน แต่ก็สามารถปรับปรุงหรือออกแบบให้ใกล้เคียงกัน หรือมีความคล้ายกันได้ข้ึนอยู่กับการสังเกต และพัฒนาการของแต่ละคน ซึ่งการมัดลายแบบพื้นฐานอย่างง่ายมี ๔ แบบ ดังนี้ ๑. การพับแล้วมัด คือ เป็นการพับผ้าเป็นรูปต่างๆ แล้วมัดด้วยหนังยางหรือเชือก ผลที่ได้จะได้ลวดลายที่มีลักษณะ ลายด้านซ้ายและลายด้านขวาจะมีความใกล้เคียงกัน แต่จะมีสีอ่อนด้านหนึ่งและสีเข้มด้านหนึ่ง เนื่องจากว่าหากด้านใดโดนพับไว้ ด้านในสีก็จะซึมเข้าไปได้น้อย ผลที่ได้ก็คือจะมีสีจางกว่านั่นเอง ๒. การห่อแล้วมัด คือ เป็นการใช้ผ้าห่อวัตถุต่างๆไว้แล้วมัดด้วยหนังยางหรือเชือก ลายที่เกิดขึ้นจะเป็นลายใหญ่ หรือเล็กขึน้ อยู่กับวัสดุที่นำมาใช้และลักษณะของการมัด เช่น การนำผ้ามาห่อก้อนหินรูปทรงแปลกๆ ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แล้วมัดไขว้ไปมาโดยเว้นจังหวะของการมัดให้มีพื้นที่ว่างให้สีซึมเข้าไปได้ จากลักษณะนี้ก็จะมีลายเกิดขึ้นสวยงามแตกต่าง จากการมัดลักษณะวัสดุอื่นๆ ด้วย ๓. การขยำแล้วมัด คือ เป็นการขยำผ้าอย่างไม่ตั้งใจแล้วมัดด้วยหนังยางหรือเชือก ผลที่ได้จะได้ลวดลายแบบอิสระ ทำแบบนี้อีกก็ไม่ได้ลายนี้อีกแล้ว เนื่องจากการขยำแต่ละครั้งเราไม่สามารถควบคุมการทับซ้อนของผ้าได้ ฉะนั้นลายที่ได้เป็นลาย ที่เกิดจากความบังเอิญ เปรียบเทียบได้คือเหมือนกับการที่เราเห็นก้อนเมฆ ก้อนเมฆแต่ละก้อนก็จะมีลักษณะแตกต่างกัน และเมื่อผ่านไปได้สักครู่ลายหรือลักษณะของก้อนเมฆก็จะเปลี่ยนแปลงไปเราเรียกว่าลายอิสระ หรือรูปร่างรูปทรงอิสระนั่นเอง ๔. พับแล้วหนีบ คือ เป็นการพับผ้าไปในรูปแบบต่างๆ แล้วเอาไม้ไอศกรีม หรือไม้ไผ่ผ่าบางๆ หนีบไว้ทั้งสองข้าง เหมือนปิ้งปลาต้องมัดไม้ให้แน่นภาพที่ออกมาก็จะเป็นรูปต่างๆ เช่น รูปดอกไม้ รูปสี่เหลี่ยม เป็นต้น
6
ข้อสังเกต และ ข้อควรระวัง หลักการสำคัญในการทำมัดย้อมคือ ส่วนที่ถูกมัดคือส่วนที่ไม่ต้องการให้สีติด ส่วนที่เหลือหรือส่วนที่ไม่ได้มัด คือส่วนที่ต้องการให้สีติด การมัดเป็นการกันสีไม่ให้สีติดนั่นเอง ลักษณะที่สำคัญของการมัดมีดังนี้ ๑. ความแน่นของการมัด - กรณีแรกมัดมากเกินไปจนไม่เหลือพื้นที่ให้สีแทรกซึมเข้าไปได้เลย ผลลัพธ์ที่จะได้ก็คือ ได้สีขาวของเนื้อผ้าเดิม อาจมีสีที่ย้อมแทรกซึมเข้ามาได้เล็กน้อยจึงทำให้เกิดลวดลายน้อย - กรณีที่สองมัดน้อยเกินไปจนทำให้เหลือพื้นที่ให้สีย้อมติดเกือบเต็มผืน จึงทำให้เกิดน้อยเช่นเดียวกัน ทั้งผืนอาจจะมีสีย้อมติดมาบ้างแต่แทบไม่มีลายอะไรเลย - กรณีที่สามมัดเหมือนกันแต่มัดไม่แน่น การมัดในลักษณะนี้เท่ากับว่า ไม่ได้มัดอะไรเลยเพราะหากมัดไม่แน่นสีก็จะ แทรกซึมผ่านเข้าไปได้ทั่วทั้งผืน ๒. การใช้อุปกรณ์ช่วยในการหนีบผ้าแล้วมัด เพื่อให้เกิด ความ แน่นและเกิดลวดลายตามแม่แบบที่ใช้หนีบ ดังนั้นลายสวยเพียงใดขึ้นอยู่กับการออกแบบแม่แบบที่จะใช้หนีบด้วย ๓. ความสม่ำเสมอของสีย้อม สีย้อมที่ติดผ้าจะสม่ำเสมอได้ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิความร้อนขณะนำผ้าลงย้อม และการกลับผ้าไปมาการขยำผ้าเกือบตลอดเวลาของการย้อมหนึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อนที่จะแช่ผ้าไว้
7
บทที่ ๓ วัสดุอุปกรณ์และวิธีดำเนินงาน วัสดุอุปกรณ์ ๑.
เสื้อขาว
๒. สีย้อมผ้า ๓. หนังยาง ๔. น้ำอุ่น ๕. น้ำเปล่า ๖. ถุงพลาสติก ๗. ขวดเปล่า ๘. ค้อน ๙. ตะปู ๑๐. เกลือ ๑๑. หม้อ ๑๒. กรรไกร
ขั้นตอนการดำเนินงาน การเตรียมการ ๑. ศึกษาสำรวจข้อมูล เขียนโครงการ ออกสำรวจและสัมภาษณ์เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล ๒. กำหนดรูปแบบการทำผ้ามัดย้อม
การเตรียมสถานที่ จัดสถานที่ / จัดเตรียมอุปกรณ์
8
ตารางการดำเนินงาน
วัน เดือน ปี ๑๖ ส.ค. ๖๓
รายการกิจกรรม คิดกำหนดหัวข้อ
สถานที่
ผู้รับผิดชอบ
ห้องเรียน
สมาชิกทั้ง ๔ คน
หมายเหตุ
๑๙ ส.ค. ๖๓
ศึกษาเกี่ยวกับวิธีเขียนโครงงาน จาก Internet และรายงานผล
ห้องเรียน
สมาชิกทั้ง ๔ คน
๒๑ ส.ค. ๖๓
วางแผนปฏิบัติงาน
ห้องเรียน
สมาชิกทั้ง ๔ คน
-
๒๓ ส.ค. ๖๓
ซื้ออุปกรณ์
ตลาดปรีชา
สมาชิกทั้ง ๔ คน
-
๒๖ ส.ค. ๖๓
เตรียมอุปกรณ์และปฏิบัติงาน
บ้าน
สมาชิกทั้ง ๔ คน
-
๓๐ ส.ค. ๖๓
สรุปผลและรายงานผล
ห้องเรียน
สมาชิกทั้ง ๔ คน
-
9
วิธีทำผ้ามัดย้อม ๑. ต้มน้ำให้เดือด ๒. นำขวดเปล่ามาเจาะรู ๓. นำสีใส่ในขวดแล้วนำน้ำที่ต้มไว้แล้วใส่ในขวด ๔. ใส่เกลือและเขย่าให้เข้ากัน ๕. มัดเสื้อให้เป็นลวดลายต่างๆ ๖. นำสีมาย้อมผ้าตามที่ชอบ ๗. นำผ้าที่ได้ใส่ถุงพลาสติกและมัดปากถุงให้เรียบร้อย ๘. ทิ้งไว้หนึ่งคืน ๙. นำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด ๑๐. นำผ้ามาตากแดดให้แห้ง
10
บทที่ ๔ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การดำเนินงานตามขั้นตอนการทำผ้ามัดย้อมข้างต้น เพื่อการจำหน่ายในแต่ละครั้งอุปกรณ์ที่จะใช้ได้แก่ ผ้าขาว สีย้อมผ้า หนังยาง น้ำอุ่น หม้อ น้ำเปล่า ถุงพลาสติก กรรไกร ขวดเปล่า ค้อน ตะปู เกลือ ในการลงทุนทำผ้ามัดย้อมมีวัสดุอุปกรณ์ ตามตารางดังนี้
ตารางแสดงการลงทุนการทำผ้ามัดย้อม ที่ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒
รายการ เสื้อขาว สีย้อมผ้า หนังยาง น้ำอุ่น น้ำเปล่า ถุงพลาสติก กรรไกร ขวดเปล่าหรือขวดบีบ ค้อน ตะปู เกลือ หม้อ รวม
ปริมาณ ๕ ตัว ๕ ซอง ๒๐ เส้น ๒ ลิตร ๒ ลิตร ๕ ใบ ๑ เล่ม ๕ ขวด ๑ ด้าม ๑ ตัว ๑ ช้อนชา ๑ ใบ
ราคา / หน่วย ๙๖บาท/ตัว ๑๐บาท/ซอง ๕๓๐
จำนวนเงิน ๔๘๐ ๕๐ ๕๓๐
11
ตารางการเปรียบเทียบการลงทุนและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้ามัดย้อม ที่
สินค้า
จำนวน
ราคาลงทุน
ราคาขาย
กำไร
๑. เสื้อไซส์ S
๑ ตัว
๑๐๖ บาท/ตัว
๑๔๐ บาท/ตัว
๓๔ บาท/ใบ
๒. เสื้อไซส์ M
๒ ตัว
๑๐๖ บาท/ตัว
๑๔๐ บาท/ตัว
๓๔ บาท/ตัว
๓. เสื้อไซส์ L
๑ ตัว
๑๐๖ บาท/ตัว
๑๕๐ บาท/ตัว
๔๔ บาท/ตัว
๔. เสื้อไซส์ XL
๑ ตัว
๑๐๖ บาท/ตัว
๑๕๐ บาท/ตัว
๔๔ บาท/ตัว
12
บทที่ ๕ สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลการดำเนินงาน การทำโครงงานผ้ามัดย้อมตลอดระยะเวลาที่วางแผนงานและระหว่างปฏิบัติงานผลสำเร็จเป็นที่น่าพึงพอใจแก่ผู้ปฏิบัติ งานเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากการทำโครงงานอาชีพแล้วการปฏิบัติงานยังช่วยให้ก่อประโยชน์ในด้านอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกทักษะชีวิต การคิดวิเคราะห์ การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ การสร้างรายได้เสริมให้แก่ตนเอง การรู้จักวางแผน รับผิดชอบหน้าที่ที่ตนได้รับมอบหมายจนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ซึ่งทักษะต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นนั้นไม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้ภายใน ห้องเรียนทั้งการปฏิบัติงานและการรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
อภิปรายผล การทำผ้ามัดย้อมเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก มีลวดลายที่สวยงาม และมีสีสันที่สดใสเหมาะสมกับการใช้งาน
ประโยชน์ที่ได้รับ ๑. ๒. ๓. ๔.
มีความรู้และประสบการณ์ในการทำผ้ามัดย้อม มองเห็นแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคตข้างหน้า ทำให้มีรายได้เสริมในระหว่างเรียน เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
ข้อเสนอแนะ ควรวางแผนการดำเนินงานให้ดีกว่าเดิม
บรรณานุกรม
● ● ●
www.journal.rmutt.ac.th https://home.kapook.com/view227148.html https://sites.google.com/a/wangwiset.ac.th
ภาคผนวก