Data Loading...

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน Flipbook PDF

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน


97 Views
29 Downloads
FLIP PDF 649.9KB

DOWNLOAD FLIP

REPORT DMCA

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ใน ปัจจุบัน ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากต่อการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ เพื่อช่ว ย

อำนวยความสะดวกสบายและถ้าเราจะพูดถึงเทคโนโลยีที่เรียกกันทั่วไป ว่าคอมพิวเตอร์ก็คงจะไม่มีใครปฏิเสธ ได้ว่าไม่รู้จัก เนื่องจากการทำงานทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่

ความหมายของคอมพิวเตอร์ คอมพิ ว เตอร์ น ั ้ น เป็ น คำที ่ ม าจากภาษาละติ น ว่ า Computare ซึ ่ ง หมายถึ ง การนั บ หรื อ การ คำนวณ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า “เครื่ อง อิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญ หาต่างๆ ที่ง่ายและซับซ้อนโดย วิธีทางคณิตศาสตร์” คอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้ในการจัดเก็บ คำนวณ ประมวลผลหรืองานต่าง ๆ ตามคำสั่งที่ จัดทำขึ้น แล้วบันทึกเก็บไว้ในหน่วยความจำของอุปกรณ์นั้น คอมพิวเตอร์มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก คือ ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (Digital Computer) มีการทำงานโดยการนำค่าที่เป็นเลขโดด เช่น เลขฐานสอง มาใช้ ในการคำนวณ

แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (Analog Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทำงานโดย การนำค่าตัวแปรที่ต่อเนื่อง เช่น ค่าแรงดันไฟฟ้าในวงจรมาใช้ในการคำนวณ

1

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบนั

2 ไฮบริ ดคอมพิวเตอร์ (Hybrid Computer) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ลูกผสมระหว่างคอมพิวเตอร์สองแบบแรก

แต่ ในปัจจุบันนี้ เมื่อกล่าวถึงคอมพิวเตอร์เฉยๆ จะหมายถึง ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ ที่นิยมใช้กัน สาเหตุที่นำคอมพิวเตอร์มาใช้งานในปัจจุบัน คือ • ค อ ม พ ิ ว เ ต อ ร ์ ส า ม า ร ถ บ ั น ท ึ ก ข ้ อ ม ู ล ต ่ า ง ๆ ไ ด้ อ ย ่ า ง ส ะ ด ว ก ร ว ด เ ร็ ว • คอมพิวเตอร์สามารถเก็บข้อมูลจำนวนมาก ๆ ไว้ในฐานข้อมูลและเรียกเพื่อนำมาใช้งานได้ทันที ตามความ ต้องการของผู้ใช้งาน • คอมพิวเตอร์สามารถนำข้อมูลที่เก็บไว้มาคำนวณทางสถิติ แยกประเภทจัดกลุ่มทำรายงานลักษณะต่างๆ ได้ โดยระบบประมวลผล ที่มีความถูกต้อง • ค อ ม พ ิ ว เ ต อ ร ์ ส า ม า ร ถ ส ่ ง ข ้ อ ม ู ล จ า ก ท ี ่ ห น ึ ่ ง ไ ป ย ั ง อ ี ก ท ี ่ ห น ึ ่ ง ไ ด ้ อ ย ่ า ง ร ว ด เ ร็ ว และตลอดเวลา • คอมพิวเตอร์สามารถจัดทำเอกสารต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยระบบประมวลคำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ระบบสำนักงานอัตโนมัติ สร้างความสะดวกและประหยัดเวลาในการจัดทำเอกสารแต่ละชนิด

3 รูปแบบของคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบัน ตอนนี้คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทกับมนุษย์มากขึ้น โดยแทบทุกองค์กร ล้วนใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานมาก ขึ้น ไว้เพื่อทำบัญชี ไว้เพื่อทำธุรกิจบนเว็บไซต์ ไว้เพื่อหาข้อมูลต่างๆ ลงโฆษณา หรือ ถ้าใช้ในความบันเทิง เช่น เล่น facebook ดูหนัง ฟังเพลง เลือกซื้อของสินค้า ดูสถานที่สวยๆ เป็นต้น วันนี้จะแนะนำคอมพิวเตอร์ที่มีอยุ่ ในปัจจุบัน ว่ามีการพัฒนาไปถึงไหนแล้ว คอมพิวเตอร์ส่วนตัว หรือ PC ซึ่งออกแบบมาให้คนที่ต้องการใช้ส่วนตัว ซึ่งสามารถเลือกหรือออกแบบ อุปกรณ์ ให้ตรงกับรูปแบบการใช้งาน ราคาก็หลัก พันจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น ซื้อมาเพื่อใช้ในการเล่น เกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง หรือ หาข้อมูลใน อินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ หรือ Desktop ออกแบบเพื่อใช้ในการทำงานมากกว่า ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายได้ตามความสะดวก จะมีราคาที่ประหยัดกว่า แล็ปทอปหรือโน๊ตบุ๊ค Laptop เป็ น คอมพิ ว เตอร์ ท ี ่ อ อกแบบมาขนาดเล็ ก ซึ ่ ง พกพาไปไหนก็ ไ ด้ ราคารจะค่ อ นข้ า งแพงกว่ า คอมพิวเตอร์ PC ถ้าเทียบราคากับสเป็กคอมที่ได้มา Netbook เหมือนกับ Laptop ซึ่ง ถ้าเราเลือกใช้แล้ว ถ้าอยากได้ โน๊ตบุ๊คแรงๆ ราคาก็จะแรงตามไปด้วย PDA ชื่อเต็ม Personal Digital Assistant หลายคนอาจจะไม่เคยเห็นเพราะ ตัวนี้ไ ม่ค่อยมีคนนำมาใช้ ใ น ชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่จะใช้ในการทำงานที่มีข้อมูลเยอะๆ อย่างเช่น ข้อมูลของยา ข้อมูลของอุปกรณ์สิ้นค้า ต่างๆ ที่สำคัญสามารถพกพาได้สะดวก เพราะมีขนาดพอดีมือ

Mainframe สมัยก่อนต้องใช้พื้นที่เป็นจำนวนมาก ในการติดตั้งเพราะมีขนาดใหญ่ แต่ตอนนี้ ในเรื่องการ พัฒนาเทคโนโลยีแล้ว ทำให้เครื่องลงมากพร้อมกับมีการประมวลผลที่เร็วกว่าหลายเท่า ส่วนมากจะใช้ใน องค์กรใหญ่ๆ ที่มีการคำนวณสูง เช่น การซื้อขายที่มีมูลค่าเยอะ จะทำให้การคำนวณ ผิดพลาดน้อย Supercomputer จะมีขนาดใหญ่ ประสิทธิ์ภาพสูงและมีราคาที่สูง ถึงหลักแสน จนไปถึง เครื่องละ สิบล้าน บาทเลยทีเดียว คอมพิ ว เตอร์ ส วมใส่ ตอนนี ้ เทคโนโลยีได้ พั ฒนาให้ม ี ระบบคอมพิ วเตอร์ ขนาดเล็ ก ที ่ ส ามารถนำมาเป็น เครื่องประดับ เช่น เป็นนาฬิกาข้อมือ เป็นต้น วึ่งในอนาคตเชื่อว่า จะมีการพัฒนาเป็นเครื่องประดับอีกจำนวน มาก

4

Workstation เป็นอุปกรณ์ ค อมพิว เตอร์ ที ่นิ ยม ใช้ในทางปรั บ แต่ง เสียงต่างๆ เรื่องคุณภาพความเร็ ว จะ เหนือกว่า Desktop ยังนอกจากการ ปรับซาวด์เสียงดนตรีแล้ว ยังนิยมใช้ในทางกราฟฟิก อย่าง นักสร้างเกม การ์ตูนอนิเมชั่น เป็นต้น Server เป็ น เครื ่ อ งเก็บ ข้ อมู ล ใช้ ร ่ ว มกั บคอมพิ วเตอร์ ซึ ่ ง เครื ่ อ ง Server นี ้ จะเป็ น เครื ่ องที ่ มี ค วามเร็ว ประมวลผล และ ต้องมีพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก

คอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบนั เทคโนโลยีไม่เพียงแสงของทางมืดของชีวิตของ เรา แต่ยังแก้ปัญหาสำคัญของปัญหาและการปรับปรุง ความสำเร็จของเรา สัมผัสเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งประดิษฐ์แปลกเกินความคิดของเรา gift วันนี้ เทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจให้เราและจะ backdated วันพรุ่งนี้เพื่อปรับปรุงชี้แจงของเทคโนโลยี เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ไม่เพียงจะดีขึ้นโดยปีที่ปี แต่ยังดีขึ้นวันต่อวันและด้วยเหตุผลประดิษฐ์จริงของปัจจุบันถูก จำกัด ใน การคิดในเมื่อวานและจินตนาการของวันนี้จะเป็นจริงในวันพรุ่งนี้ว่า เป็นคอมพิวเตอร์เกิดจากการสะสมตรงกัน ของสองช่องที่ต้องการฮาร์ดแวร์และ ซอฟต์แวร์เทคโนโลยียังทำให้เขามีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญในทั้ง สองเขต ข้อมูล สำหรับการทำคอมพิวเตอร์ยังเป็นนักแสดงใหญ่กับความก้าวหน้าของ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ขนาดของ คอมพิวเตอร์ก็เป็นขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพมาก ขึ้นกว่าก่อน ความสามารถจัดเก็บข้อมู ลของคอมพิวเตอร์ จำกัด ตอนนี้เพื่อเมกะไบต์และมักจะรวมถึงกิกะไบต์เพื่อเทราไบต์และในทาง คอมพิวเตอร์สมัยใหม่เป็นโลกที่ อยู่ในโลกนี้ แผ่น Hard, แผ่น DVD และแผ่นลบเป็นประเภทดังกล่าวของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหน่วยความจำที่ กำลัง ขนาดเล็กและมีความสามารถกว่าก่อน คำแนะนำผู้ปฏิบัติการของเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่เรียกว่าหน่วยประมวลผลคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้ของการคิดค้นเทคโนโลยีที่ทันสมัย เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ได้รวมตอนนี้สอง, สี่, แปดหรือมากกว่าหลักในโปรเซสเซอร์เดียวเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากและประเภท ของโปรเซสเซอร์เหล่านี้ เป็ น ที ่ ร ู ้ จ ั ก กั น เป็ น dual core, core 2 เดื ่ อ , core 2 quad - core - 2 และ - มากในตลาด ประเภทนี้ processor เป็ น 2, 4, 8 และก็ 16 ครั ้ ง fasted เพื ่ อ ประมวลผลข้ อ มู ล หน่ ว ยความจำเงิ นสดและรถบัส ความเร็ ว ยัง ไม่ จำกั ด กิ โ ลไบต์ แ ละจะขยายไปยัง เมกะไบต์ใ นขณะนี้ ด้ ว ยองค์ ป ระกอบพื ้ นฐานเหล่านี้ องค์ประกอบอื่น ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ก ลายเป็นนัก แสดงมากขึ้นและมี ประสิ ทธิ ภาพที่ มีเ ฉพาะใน จินตนาการสองสามวันที่ผ่านมา

5

ประเภทของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ยุคใหม่ การใช้คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อย ๆและนำมาใช้กับงานที่ซับซ้อนมาก ยิ่งขึ้น จากที่แต่เดิมบางหน่วยงานเอาคอมพิวเตอร์เพื่อมาช่วยสำหรับงานประมวลผลเล็ก ๆ เท่านั้น เช่น งาน การจัดพิมพ์เอกสารหรืองานสำนักงาน ซึ่งยังไม่ค่อยสนับสนุนในเรื่องของการเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายมากนัก แต่ปัจจุบันได้พัฒนาให้สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างทั่วถึง เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจึงสามารถโอนถ่าย ข้อมูลถึงกันได้อย่างรวดเร็วภายใต้ระบบสื่อสารที่ดีขึ้น โดยเฉพาะบทบาทของเทคโนโลยีทางด้านอินเทอร์เน็ตที่ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันที่ทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิว เตอร์ที่อยู่ต่างที่กัน สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

6

ระยะเวลาได้ไปไปใช้ส่วนใหญ่และ overweighed เครื่องมือสำหรับการตั้งค่าของคอมพิวเตอร์ของคุณ จอ LCD มีการแก้ไขปัญหาลักษณะนี้และสบายตาสำหรับเทคโนโลยีการกรองที่กรองรัง สี อันตรายเปล่ง จาก จอภาพ ของขวัญประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยเป็นเครื่อง คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปที่มี ขนาดเล็กและความยื ด หยุ ่นในการใช้งาน ผลิตสินค้านี้ไ ด้ ลองยัง สะสมข้อ ดี ของเทคโนโลยี สมั ยใหม่ เ ช่ น Bluetooth, web และมาเช่นนั้นโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัยจอภาพและเครื่องคอมพิวเตอร์โดยรวม มีการบริโภค พลังงานต่ำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น RAM ของคอมพิวเตอร์เป็นผู้ช่วยของโปรเซสเซอร์ที่ใช้หน่วยความจำ หลักในการ วิเคราะห์การเรียนการสอนรหัสหรือซอฟต์แวร์และขนาดหน่วยความจำของแรมในขณะนี้ สูงกว่า เพื่อกิกะไบต์เดียว ซอฟต์แวร์ซอฟต์แวร์ที่มามักจะถูกเปิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปที่ให้เราในวัน คุณสมบัติใหม่ ตามวัน ระบบปฏิบัติการที่เป็นที่นิยมและใช้งานง่ายเช่นระบบปฏิบัติการ Windows มีการปรับปรุง ด้วย คุณสมบัติที่ดีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ เปิดแหล่งที่มาและซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการเช่น Linux ให้เวลา update เวลาและคุณสามารถเพิ่มคุณสมบัติตามต้องการ สำหรับคุณสมบัติที่ดีเหล่านี้คอมพิวเตอร์ กล่าวจะสงสัยวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยเป็นของที่สืบมหัศจรรย์

ประเภทของคอมพิวเตอร์ จากประวั ต ิ ค วามเป็ น มาของคอมพิ ว เตอร์ จะเห็ น ได้ ว ่ า เทคโนโลยี ท างด้ า นคอมพิ ว เตอร์ ม ี ก ารพั ฒ นา เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก ทำให้ปัจจุบันมีเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เลือกใช้มากมายหลายรูปแบบตามความ ต้องการของผู้ใช้ การแบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์นั้น สามารถจำแนกออกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้ 1. ประเภทของคอมพิวเตอร์ตามหลักการประมวลผล 2.ประเภทของคอมพิวเตอร์ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน 3.ประเภทของคอมพิวเตอร์ตามความสามารถของระบบ 1. แบ่งตามหลักการประมวลผล จำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ คอมพิวเตอร์แบบแอนะล็อก (Analog Computer) หมายถึง เครื่องมือประมวลผลข้อมูลที่อาศัยหลักการ วัด (Measuring Principle) ทำงานโดยใช้ข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบต่อเนื่อง (Continuous Data) แสดง ออกมาในลักษณะสัญญาณที่เรียกว่า Analog Signal เครื่องคอมพิวเตอร์ประเภทนี้มักแสดงผลด้วยสเกล หน้าปัทม์ และเข็มชี้ เช่น การวัดค่าความยาว โดยเปรียบเทียบกับสเกลบนไม้บรรทัด การวัดค่าความร้อนจาก การขยายตัวของปรอทเปรียบเทียบกับสเกลข้างหลอดแก้ว นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างของ Analog Computer ที่ใช้การประมวลผลแบบเป็นขั้นตอน เช่น เครื่องวัดปริมาณการใช้น้ำด้วยมาตรวัดน้ำ ที่เปลี่ยนการไหลของน้ำ ให้เป็นตัวเลขแสดงปริมาณ อุปกรณ์วัดความเร็วของรถยนต์ในลักษณะเข็มชี้ หรือเครื่องตรวจคลื่ยสมองที่ แสดงผลเป็นรูปกราฟ เป็นต้น

7

คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมีรูปลักษณ์น่าใช้ขึ้นกว่าแต่ก่อนการออกแบบตัวเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ก็ ได้มีการปรับปรุงขนาดให้เล็กลงและมีรูปลักษณ์ที่แปลกตามากยิ่งขึ้น บางเครื่องมีการออกแบบที่เน้นให้ รูปลักษณ์ภายนอกสามารถเป็นเครื่องประดับหรือเฟอร์นิเจอร์ของห้องทำงานได้อีกด้วย นอกจากนั้นยังรองรับ การเชื่อมต่อของอุปกรณ์สมัยใหม่ เช่น กล้องดิจิตอล โทรศัพท์มือถือ รวมถึงสื่อเก็บบันทึกข้อมูลแบบพกพาที่ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานไว้อย่างพร้อมสรรพ รูปลักษณ์ของไมโครคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไป รวมถึงคอมพิวเตอร์มือถือที่เราอาจพบเห็นหรือหามาใช้งานได้

คอมพิวเตอร์แบบลูกผสม (Hybrid Computer)เครื่องประมวลผลข้อมูลที่อาศัยเทคนิคการทำงานแบบ ผสมผสาน ระหว่ า ง Analog Computer และ Digital Computer โดยทั ่ ว ไปมั ก ใช้ ใ นงานเฉพาะกิ จ โดย เฉพาะงานด้านวิทยาศาสตร์ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ในยานอวกาศ ที่ใช้ Analog Computer ควบคุมการหมุน ของตั ว ยาน และใช้ Digital Computerในการคำนวณระยะทาง เป็ น ต้ น การทำงานแบบผสมผสานของ คอมพิวเตอร์ชนิดนี้ ยังคงจำเป็นต้องอาศัยตัวเปลี่ยนสัญญาณ (Converter) เช่นเดิม

2. แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน จำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่องานเฉพาะกิจ (Special Purpose Computer) หมายถึง เครื่องประมวลผล ข้อมูลที่ถูกออกแบบตัวเครื่องและโปรแกรมควบคุม ให้ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการเฉพาะ (Inflexible) โดยทั่วไปมักใช้ในงานควบคุม หรืองานอุตสาหกรรมที่เน้นการประมวลผลแบบรวดเร็ว เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ ควบคุมสัญญาณไฟจราจร คอมพิวเตอร์ควบคุมลิฟท์ หรือคอมพิวเตอร์ควบคุมระบบอัตโนมัติในรถยนต์ เป็น ต้น เครื ่ อ งคอมพิ ว เตอร์ เ พื ่ อ งานอเนกประสงค์ ( General Purpose Computer) หมายถึ ง เครื ่ อ งประมวลผลข้ อ มูล ที ่ ม ี ค วามยื ด หยุ ่ นในการทำงาน (Flexible) โดยได้ ร ั บ การออกแบบให้ ส ามารถ ประยุกต์ใช้ในงานประเภทต่างๆ ได้โดยสะดวก โดยระบบจะทำงานตามคำสั่งในโปรแกรมที่เขียนขึ้นมา และ เมื่อผู้ใช้ต้องการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานอะไร ก็เพียงแต่ออกคำสั่งเรียกโปรแกรมที่เหมาะสมเข้ามาใช้งาน โดยเราสามารถเก็บโปรแกรมไว้หลายโปรแกรมในเครื่องเดียวกันได้ เช่น ในขณะหนึ่งเราอาจใช้เครื่องนี้ในงาน ประมวลผลเกี่ยวกับระบบบัญชี และในขณะหนึ่งก็สามารถใช้ในการออกเช็คเงินเดือนได้ เป็นต้น

8

คอมพิวเตอร์แบบดิจิทัล (Digital Computer) ซึ่งก็คือคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการทำงานทั่วๆ ไปนั่นเอง เป็น เครื่องมือประมวลผลข้อมูลที่อาศัยหลักการนับ ทำงานกับข้อมูลที่มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงแบบไม่ต่อเนื่อง (Discrete Data) ในลักษณะของสัญญาณไฟฟ้า หรือ Digital Signal อาศัยการนับสัญญาณข้อมูลที่เป็นจังหวะ ด้วยตัวนับ (Counter) ภายใต้ระบบฐานเวลา (Clock Time) มาตรฐาน ทำให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าเชื่อถือ ทั้ง สามารถนับข้อมูลให้ค่าความละเอียดสูง เช่นแสดงผลลัพธ์เป็นทศนิยมได้หลายตำแหน่ง เป็นต้นเนื่องจาก Digital Computer ต้องอาศัยข้อมูลที่เป็นสัญญาณไฟฟ้า (มนุษย์สัมผัสไม่ได้) ทำให้ไม่สามารถรับข้อมู ลจาก แหล่งข้อมูลต้นทางได้โดยตรง จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนข้อมูลต้นทางที่รับเข้า (Analog Signal) เป็นสัญญาณไฟฟ้า (Digital Signal) เสียก่อน เมื่อประมวลผลเรียบร้อยแล้วจึงเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้ากลับไปเป็น Analog Signal เพื่อสื่อความหมายกับมนุษย์ต่อไปโดยส่วนประกอบสำคัญที่ เรียกว่า ตัวเปลี่ยนสัญญาณข้อมูล (Converter) คอยทำหน้าที่ในการเปลี่ยนรูปแบบของสัญญาณข้อมูล ระหว่าง Digital Signal กับ Analog Signal

จำแนกออกได้เป็น 4 ชนิด โดยพิจารณาจาก ความสามารถในการเก็บข้อมูล และ ความเร็วในการประมวลผล เป็นหลัก ดังนี้ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer) หมายถึง เครื่องประมวลผลข้อมูลที่มีความสามารถในการ ประมวลผลสูงที่สุด โดยทั่วไปสร้างขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่องานด้านวิทยาศาสตร์ที่ต้องการการประมวลผล ซับซ้อน และต้องการความเร็วสูง เช่น งานวิจัยขีปนาวุธ งานโครงการอวกาศสหรัฐ (NASA) งานสื่อสาร ดาวเทียม หรืองานพยากรณ์อากาศ เป็นต้น เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) หมายถึง เครื่องประมวลผลข้อมูลที่มีส่วนความจำและ ความเร็วน้อยลง สามารถใช้ข้อมูลและคำสั่งของเครื่องรุ่นอื่นในตระกูล (Family) เดียวกันได้ โดยไม่ต้อง ดัดแปลงแก้ไขใดๆ นอกจากนั้ นยังสามารถทำงานในระบบเครือข่าย (Network) ได้เป็นอย่างดี โดยสามารถ เชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ที่เรียกว่า เครื่องปลายทาง (Terminal) จำนวนมากได้ สามารถทำงานได้พร้อมกันหลาย งาน (Multi Tasking) และใช้งานได้พร้อมกันหลายคน (Multi User) ปกติเครื่องชนิดนี้นิยมใช้ในธุรกิจขนาด ใหญ่ มีราคาตั้งแต่สิบล้านบาทไปจนถึงหลายร้อยล้านบาท ตัวอย่างของเครื่องเมนเฟรมที่ใช้กันแพร่หลายก็คือ คอมพิวเตอร์ของธนาคารที่เชื่อมต่อไปยังตู้ ATM และสาขาของธนาคารทั่วประเทศนั่นเอง มินิคอมพิวเตอร์ (Mini Computer) ธุรกิจและหน่วยงานที่มีขนาดเล็กไม่จำเป็น ต้องใช้คอมพิวเตอร์ขนาด เมนเฟรมซึ่งมีราคาแพง ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์จึงพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้มีขนาดเล็กและมีราคาถูกลง เรียกว่า เครื่องมินิคอมพิวเตอร์ โดยมีลักษณะพิเศษในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ประกอบรอบข้างที่มีความเร็วสูงได้ มี การใช้แผ่นจานแม่เหล็กความจุสูงชนิดแข็ง (Harddisk) ในการเก็บรักษาข้อมูล สามารถอ่านเขียนข้อมู ลได้ อย่างรวดเร็ว หน่วยงานและบริษัทที่ใช้คอมพิวเตอร์ขนาดนี้ ได้แก่ กรม กอง มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ไมโครคอมพิ ว เตอร์ (Micro Computer) หมายถึ ง เครื ่ อ งประมวลผลข้ อ มู ล ขนาดเล็ ก มี ส ่ ว นของ หน่วยความจำและความเร็วในการประมวลผลน้อยที่สุด สามารถใช้ง านได้ด้วยคนเดียว จึง มักถูกเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer : PC) ปัจจุบัน ไมโครคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพสูงกว่าในสมัยก่อนมาก อาจเท่ากับหรือมากกว่าเครื่องเมนเฟรมใน ยุคก่อน นอกจากนั้นยังราคาถูกลงมาก ดัง นั้นจึง เป็นที่นิยมใช้มาก ทั้ง ตามหน่วยงานและบริษัทห้างร้าน ตลอดจนตามโรงเรียน สถานศึกษา และบ้านเรือน บริษัทที่ผลิตไมโครคอมพิวเตอร์ออกจำหน่ายจนประสบ ความสำเร็จเป็นบริษัทแรก คือ บริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์

9

3. แบ่งตามความสามารถของระบบ

1. ฮาร์ ด แวร์ (Hardware) หมายถึ ง สิ ่ ง ที ่ ม องเห็ น และจั บ ต้ อ งสั ม ผั ส ได้ ท ั ้ ง หมดที ่ เ กี ่ ย วข้ อ งกั บ คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ (Case) เมนบอร์ด (Mainboard) และอุปกรณ์ต่อพ่วงรอบข้าง (Peripheral) ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฮาร์ดดิสก์ แป้นพิมพ์ เม้าส์ หน่วยประมวลผลกลาง จอภาพ เครื่องพิมพ์ และ อุปกรณ์อื่น ๆ ฮาร์ดแวร์จะไม่สามารถทำงานด้วยตัวเองเดี่ยว ๆ ได้ จะต้องนำมาต่อเชื่อมเพื่อทำงานร่วมกันเป็น ระบบที่เรียกว่า "ระบบคอมพิวเตอร์ (Computer System)" ที่มีโครงสร้างของระบบจะทำงานตามโปรแกรม หรือซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้น 2. ซอฟต์ แ วร์ (Software) หมายถึ ง โปรแกรม (Program) หรื อ ชุ ด คำสั ่ ง ที ่ ค วบคุ ม ให้ เ ครื ่ อ ง คอมพิวเตอร์ทำงานให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ซึ่งคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ที่ประกอบออกมาจากโรงงานจะยังไม่ สามารถทำงานได้ในทันที ต้องมีซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงานตามต้องการได้ โดยโปรแกรมหรื อ ชุ ด คำสั ่งนั ้น จะเขียนจากภาษาต่ าง ๆ ที่มนุษย์สร้ างขึ้น เรียกว่า ภาษาคอมพิว เตอร์ (Programming Language) ภาษาใดภาษาหนึ่ง และมีโปรแกรมเมอร์ (Programmer) หรือนักเขียนโปรแกรม เป็นผู้ใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเขียนซอฟต์แวร์แบบต่าง ๆ ขึ้นมา ซอฟต์แวร์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1) ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) เป็นซอฟต์แวร์ ที่ ท ำหน้ า ที่ จ ัด การและควบคุ ม ทรัพยากรต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ และอำนวยความสะดวกด้านเครื่ องมือสำหรับการทำงานพื้นฐาน ต่าง ๆ ตั้งแต่ผู้ใช้เริ่มเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ การทำงานจะเป็นไปตามชุดคำสั่งที่เขียนขึ้น ตลอดจน ควบคุมการสื่อสารข้อมูลในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สร้างหรือพัฒนาขึ้น เพื่อใช้งานด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะตามที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น งานด้านการจัดทำเอกสาร การทำบัญชี การจัดเก็บข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนงานด้านอื่น ๆ ตามแต่ผู้ใช้ต้องการ 3. ข้อมูล/สารสนเทศ (Data/Information) คือ ข้อมูลต่างๆ ที่เรานำมาให้คอมพิวเตอร์ท ำ การประมวลผลคำนวณ หรื อ กระทำการอย่ า งใดอย่ า งหนึ ่ ง ให้ ไ ด้ ม าเป็ น ผลลั พ ธ์ ท ี ่ เ ราต้ อ งการ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลบุคลากรเกี่ยวกับรายละเอียดประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษาหรือ ประวัติการ ทำงาน ซึ่งอาจนำมาจำแนกเป็นรายงานต่างๆ เกี่ยวกับบุคลากรในหน่วยงานได้ หรือข้อมูลเกี่ยวกับ ตัวเลขมาตรๆ ไฟฟ้าของบ้านแต่ละหลัง ก็ใช้สำหรับคำนวณเป็นปริมาณไฟฟ้า ที่ใช้ในแต่ละเดือน แล้ว คิดเป็นเงิน ที่จะต้องชำระให้กับการไฟฟ้าฯ

10

องค์ประกอบระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 5 ส่วนด้วยกัน คือ

- เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ (Operator) - บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับระบบ (System) - ผู้จัดการศูนย์ประมวลผลคอมพิวเตอร์ (Electronic Data Processing Manager) - ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ (Computer user) 5. กระบวนการทำงาน (Documentation/Procedure) เป็นขั้นตอนการทำงานเพื่อให้ได้ ผลลัพธ์หรือข้อสนเทศจากคอมพิวเตอร์ ในการทำงานกับคอมพิวเตอร์จำเป็นที่จะต้องให้ผู้ใช้เข้าใจ ขั้นตอนการทำงาน ต้องมีระเบียบปฏิบัติให้เป็นแบบเดียวกัน มีการจัดทำคู่มือการใช้คอมพิวเตอร์ให้ ทุกคนเรียนรู้และใช้อ้ างอิงได้นอกจากนั้นเมื่อการใช้มาตรฐาน ช่วยให้การประสานงาน ระหว่าง หน่วยงานย่อยๆ ราบรื่น การจัดซื้อจัดหา ตลอดจนการบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ ก็จะง่ายขึ้นเพราะทุกหน่วยงานใช้มาตรฐานเดียวกัน

คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างไร ถ้าจะถามว่าคอมพิวเตอร์ทำงานอย่างไร ถ้าจะตอบแบบทั่วๆไปก็คงจะเป็นเสียบปลั๊กแล้วกดปุ่มเพาว์ เว่อร์ จากนั้นให้กดปุ่มสวิทช์ที่หน้าจอ เพียงเท่านี้คอมพิวเตอร์ก็ทำงานได้แล้ว เอิ่มม.....ก็ไม่ใช่ว่าผิดหรอกนะ ครับ อิอิ แต่เราจะมาพูดกันอย่างละเอียดก่อนเลยว่า การทำคอมพิวเตอร์จะทำงานได้นั้น ต้องผ่านการทำงาน อะไร ยังไงบ้าง จึงจะสามารถแสดงผลออกมาได้อย่างที่เราเห็น การทำงานของคอมพิ ว เตอร์ น ั ้ น เริ ่ ม จากการรั บ คำสั ่ ง จากผู ้ ใ ช้ ค ี ย ์ บ อร์ ด และเมาส์ โดยผ่ า น ระบบปฏิบัติการ (Windows) แล้วจะทำการส่งสัญญาณไปที่ซีพียู( CPU : Central Processing Unit) เพื่อดึง ข้อมูลจากฮาร์ดดิ สก์ (Harddisk)หรือไดรว์(Drive)ที่ต ้องการ โดยขั้นต้นนั้นจะนำข้อมูลมู ลนี้ไ ปเก็บไว้ ใ น หน่วยความจำ(RAM : Random Access Memory)ก่อน จากนั้นซีพียู(CPU : Central Processing Unit)จะ ดึงข้อมูลจากหน่วยความจำ(RAM : Random Access Memory) ออกมาประมวลผล เมื่อซีพียูประมวลผล เสร็จตามที่ผู้ใช้สั่งแล้ว จะทำการส่งข้อมูลไปเก็บไว้ที่หน่วยความจำเพื่อรอการบันทึกลงฮาร์ดดิสก์หรือไดรว์ ต่างๆ จากนั้นก็จะทำการแสดงผลโดยทำการส่งข้อมูลไปยังการ์ดจอ(Graphic Card) เพื่อทำการแปลงข้อมูล

11

4. บุคคลากร (Peopleware) คือ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต่างๆ และผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ใน หน่วยงานนั้นๆ บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์นั้น มีความสำคัญมาก เพราะการใช้เครื่องคอมพิว เตอร์ ทำงานต่างๆ นั้นจะต้องมีการจัดเตรียมเปลี่ยนระบบ จัดเตรียมโปรแกรมดำเนินการต่างๆ หลายอย่าง ซึ่งไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์มากนัก เราจึงถือว่าบุคลากร เป็น ส่วนประกอบที่สำคัญของ ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งสามารถสรุปเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้

12

ให้เป็นสัญญาณภาพออกมาทางหน้าจอ(Monitor) จบแล้วครับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ อ่านแล้ว รู้สึก งง กันหรือปล่าว ถ้ายัง งงๆ กันอยู่ลองดูภาพประกอบด้านล่างเพื่อช่วยเสริมความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้นครับ

เครื่อง iMac เป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบสำเร็จรูปจาก Apple

ราสามารถแยกแยะคอมพิวเตอร์ได้หลายรูปแบบ ซึ่งส่วนใหญ่จะแบ่งโดยขนาด การใช้งานและความสามารถ ของมัน ถึงแม้ว่าคำว่า คอมพิวเตอร์ จะสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ทุกอย่างที่มีตัวประมวลผลอยู่ คนส่วนมากจะ นึกถึง คอมพิวเตอร์ในแบบของอุปกรณ์ที่สามารถรับคำสั่ง จากผู้ใช้ผ่าน เมาส์ หรือ แป้นพิมพ์ และนำไป ประมวลผลด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งแล้วแสดงผลลัพท์ออกมาทางหน้าจอแสดงผล

1: PC หรือ คอมพิวเตอร์ส่วนตัว

คอมพิวเตอร์ส่วนตัวมีอยู่หลายรูปแบบ รวมถึง iPad ใหม่ล่าสุดจาก Apple ด้วย

คำว่า PC นั้นย่อมาจาก Personal Computer ซึ่งมีความหมายว่ามันคือคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาให้คนใช้ เป็นของส่วนตัว

13

คอมพิวเตอร์ทั้ง 10 รูปแบบในปัจจุบัน

2: Desktop หรือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่าแล็ปทอป

คอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ออกแบบมาโดยเน้นการขนย้ายนั้นคือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ถ้าเราพูดถึงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ส่วนใหญ่แล้วเราจะนึกถึงคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งไว้อย่างฐาวร เช่นบนหรือใต้โต๊ะทำงาน เป็นต้น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะส่วนใหญ่จะมีความเร็วในการประมวลผล ความจุข้อมูล และสามารถปรับแต่งได้มากกว่า คอมพิวเตอร์ชนิดพกพา

3: Laptop

ผู้บริหารและหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Apple กำลังถือ Mac Book Air แล็บทอปรุ่นใหม่ในงาน 2008 Macworld

หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ โน๊ตบุ๊ค แล็บทอปคือคอมพิวเตอร์ชนิดพกพาที่มี หน้าจอแสดงผล แป้นพิมพ์ อุปกรณ์ ควบคุมลูกศร ชิปประมวลผล หน่วยความจำ และแหล่งจ่ายไฟฟ้าเช่น แบตเตอรี่ อยู่ในตนเอง ส่วนใหญ่แล็บท อปจะมีขนาดใหญ่กว่าหนังสือปกแข็งทั่วไปเล็กน้อย

14

ถึงแม้ว่าเครื่อง Mac จะเป็น PC ชนิดหนี่ง คนส่วนมากใช้คำว่า PC กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows เท่านั้น คนรู้จัก PC ครั้งแรกด้วยชื่อ microcomputer เพราะว่าพวกมันเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติทำงานได้ ครบถ้วน และมีขนาดที่เล็กมาก เมื่อเทียบกับระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้ในธุรกิจส่วนมาก

15

4: Netbook

เน็ทบุ๊คส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กและราคาถูกกว่าแล็บทอป

เน็ทบุ๊คคือคอมพิวเตอร์ที่เน้นการพกพาที่มีขนาดเล็กกว่าแล็บทอปทั่วไป นอกจากนั้นพวกมันยังมีราคาที่ถูก กว่าด้วยราคาประมาณ 8000 ถึง 16000 บาท แต่ก็ต้องแลกด้วยอุปกรณ์ภายในที่มีความเร็วน้อยลงและ ขนาดหน้าจอที่เล็กกว่า

5: PDA คำว่า PDA นั้นย่อมาจาก Personal Digital Assistant หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า ผู้ช่วยหรือเลขาธิการดิจิ ทอลส่วนตัว พวกมันคือคอมพิวเตอร์ที่รวมอุปกรณ์ไว้ในขนาดที่เล็กซึ่งสามารถพกพาได้ง่าย ส่วนใหญ่ PDA จะเก็บข้อมูลทั้งหมดของมันไว้บนชิพความจำ ต่างจากคอมพิวเตอร์ธรรมดาที่มักจะเก็บไว้บนฮาร์ดดิส ซึ่ง เป็นจากแม่เหล็ก คอมพิวเตอร์พวกนี้มักจะไม่มีแป้นพิมพ์ แต่จะใช้เทคโนโลยีจอสัมผัสในการรับคำสั่งจากผู้ใช้ ขนาดของ PDA ส่วนใหญ่จะไม่ใหญ่เกินหนังสือนิยายขนาดเล็กๆ หรือประมาณ 1 ใน 3 ของกระดาษ A4 และ มีน้ำหนักเบา พร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานพอสมควร PDA ที่มาขนาดใหญ่กว่า PDA ทั่วไป ส่วนมากจะถูกเรียกว่า handheld computer หรือ คอมพิวเตอร์มือถือ

16

6: Workstation

ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเสียงส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์ชนิด Workstation สำหรับการแก้ไขเสียงต่างๆ

คอมพิวเตอร์อีกรูปแบบหนึ่งคือแบบ Workstation Workstation ก็คือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือที่เรียกว่า Desktop computer ที่มีความเร็วในการประมวลผลที่เหนือกว่า พร้อมกับหน่วยความจำที่มากกว่าและความ สามารรถอื่นๆเพิ่มเติมตามการใช้งาน เช่นหน่วยประมวลผลทางกราฟฟิคสำหรับนักพัฒนาเกมส์คอมพิวเตอร์

7: Server

เครื่องเซอเวอร์ที่เชื่อมต่อกันหลายๆเครื่องสำหรับให้บริการเว็บไซต์

เครื่องเซอเวอร์คือ คอมพิวเตอร์ที่ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อการให้บริการทางด้านต่างๆกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องอื่นในระบบ ส่วนใหญ่เครื่องเหล่านี้จะมีชิปประมวลผลที่มีความเร็วมาก หน่วยความจำที่ใหญ่ รวมถึง พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลเช่น ฮาร์ดดิสที่มีความจุมากอีกด้วย

17

8: Mainframe

ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะธรรมดาหรือ Supercomputer ขนาดใหญ่ พลังการประมวลผลส่วนใหญ่ก็มาจากชิปประมวลผลหลักหรือที่เรียกว่า CPU (หน่วยประมวลผลกลาง) ที่อยู่ในเครื่อง

ในยุคเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์ เครื่อง Mainframe คือคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่มาก พอที่จะใส่จนเต็มห้อง หรือชั้นหนึ่งของอาคารได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปและเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น ขนาดของชิ้นส่วนต่างๆก็ลดลง รวมถึง มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เท่านี้อีกต่อไป แต่ในปัจจุบัน คำว่า Mainframe ก็ยังคงใช้อยู่ แต่ความหมายจะเปลี่ยนไปเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ตามบริษัทใหญ่ที่ใช้ในการประมวลผล การซื้อขายและบัญชีเป็นล้านๆครั้งทุกๆวัน

9: Supercomputer

กลุ่มคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงจำนวนมากที่ทำงานร่วมกันเป็น Supercomputer ในศูนย์วิจัยของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประเทศเกาหลีใต้

คอมพิวเตอร์ชนิดนี้ส่วนใหญ่มีมูลค่ามหาศาลตั้งแต่หลายแสนถึงหลายสิบล้าน ถึงแม้ว่า Supercomputer บางเครื่องจะเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เครื่องเดี่ยว ส่วนใหญ่พวกมันจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพ

10: คอมพิวเตอร์สวมใส่

คอมพิวเตอร์สวมใส่ได้รูปแบบใหม่รุ่นทดลองจาก Team Tsukamoto ประเทศญี่ปนุ่

วิวัฒนาการใหม่ล่าสุดของคอมพิวเตอร์คือคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถสวมใส่ได้ ส่วนใหญ่คอมพิวเตอร์เหล่านี้จะ สามารถใช้งานโปรแกรมทั่วๆไปที่เราใช้ในชีวิตประจำวันเช่น อีเมลล์ ปฎิทิน การรับชมสื่อต่างๆได้ ตัวอย่าง ของคอมพิวเตอร์ที่สามารถสวมใส่ได้คือ นาฬิกาข้อมือคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือแบบสวมใส่ได้ หรือแม้แต่ เสื้อผ้านที่มีคอมพิวเตอร์ฝังอยู่

18

สูงหลายๆเครื่องที่ประมวลผลคู่ขนานกันเป็นระบบเดียว เครื่อง Supercomputer ที่รู้จักกันส่วนใหญ่นั้น ประกอบขึ้นโดยบริษัท Cray Supercomputers