Data Loading...
ระบบปฏิบัติการ Flipbook PDF
ระบบปฏิบัติการ
116 Views
158 Downloads
FLIP PDF 831.25KB
ระบบปฏิบัตกิ าร (Operating System) ระบบปฏิบัตกิ ารคือ ระบบปฏิบตั ิการเป็ นโปรแกรมควบคุมการทางาน (ควบคุมการRun)ของโปรแกรมประยุกต์ ทาหน้าที่ โต้ตอบและเป็ นสื่ อกลางระหว่างโปรแกรมประยุกต์และฮาร์ดแวร์ (Hardware) ระบบปฏิบตั ิการ (Operating System :OS) เป็ นซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) ที่ทาหน้าที่ควบคุมการทางานของเครื่ อง และอุปกรณ์ ควบคุมและสัง่ การให้ Hardware สามารถทางานได้ เช่น ทาหน้าที่ในการตรวจเช็คอุปกรณ์ Keyboard ขณะ เปิ ดเครื่ อง ถ้าผูใ้ ช้ลืมเสี ยบสาย Keyboard ที่ port ด้านหลังของเครื่ อง ขณะที่ซอฟต์แวร์ระบบตรวจสอบแล้วไม่พบอุปกรณ์ เชื่อมต่อดังกล่าว จะมีขอ้ ความแจ้งเตือนความผิดพลาด “Keyboard Error” นอกจากนี้ยงั ทาหน้าที่เป็ นสื่ อกลางในการเชื่อม การทางานระหว่าง User ในการใช้โปรแกรมประยุกต์ ( Application Software) ของ user กับระบบเครื่ องฯ อานวยความ สะดวกในการใช้งาน และเพิ่มประสิ ทธิ์ภาพของระบบ
คุณสมบัตกิ ารทางาน ระบบปฏิบตั ิการโดยทัว่ ไปจะมีคุณสมบัติในการทางานแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ การทางานแบบ Multi – Tasking คือ ความสามารถในการทางานได้หลาย ๆ งาน หรื อหลาย ๆ โปรแกรมในเวลาเดียวกัน เช่น พิมพ์รายงานควบคู่ไปกับการท่องเว็บ ซึ่งในสมัยก่อนการทางานของระบบปฏิบตั ิการจะอยูใ่ นรู ปแบบที่เรี ยกว่า single-tasking ซึ่ งจะทางานทีละโปรแกรมคาสั่ง ผูใ้ ช้ไม่สามารถที่จะสลับงานไประหว่างโปรแกรมหรื อทางาน ควบคู่กนั ได้ แต่สาหรับในปั จจุบนั จะพบเห็นลักษณะการทางานแบบนี้ มากขึ้น เช่น ในระบบปฏิบตั ิการ Windows รุ่ มใหม่ ๆ ซึ่งทาให้การใช้งานได้สะดวกและทางานได้หลาย ๆ โปรแกรม
การทางานแบบ Multi – User ในระบบการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าไว้ดว้ ยกันแบบเครื อข่าย ระบบปฏิบตั ิการที่ทาหน้าที่ควบคุมจะมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่เรี ยกว่า multi-user หรื อ ความสามารถในการทางานกับผูใ้ ช้ได้หลาย ๆ คน ขณะที่มีการประมวลผลของงานพร้อม ๆ กัน ทาให้กระจายการใช้ได้ทวั่ ถึงมากยิง่ ขึ้น
ประเภทของระบบปฏิบัตกิ าร 1. ระบบปฏิบตั ิการแบบเดี่ยว ( stand – alone OS ) เป็ นระบบปฏิบตั ิการที่มุ่งเน้นและให้บริ การสาหรับผูใ้ ช้เพียงคน เดียว (เจ้าของเครื่ องนั้น ๆ) นิยมใช้สาหรับเครื่ องคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลและทางานแบบทัว่ ไป เช่น เครื่ อง คอมพิวเตอร์ตามบ้านหรื อสานักงาน ซึ่งจะถูกติดตั้งระบบปฏิบตั ิการนี้รองรับการทางานบางอย่าง เช่น พิมพ์ รายงาน ดูหนัง ฟังเพลง หรื อเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต เป็ นต้น ปัจจุบนั พัฒนาให้มีคุณสมบัติที่เป็ นลูกข่ายเพื่อ ขอรับบริ การจากเครื่ องแม่ข่ายได้ดว้ ย DOS (Disk Operating System) เป็ นระบบปฏิบตั ิการซึ่งได้มีการพัฒนาขึ้นเมื่อประมาณปี 1980 เพื่อใช้สาหรับ เครื่ องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็ นหลัก ทางานโดยใช้การป้ อนชุดคาสัง่ ที่เรี ยกว่า command- line ซึ่งต้องป้ อน ข้อมูลทีละบรรทัดเพื่อให้เครื่ องทางานตามคาสัง่ นั้น ๆ ได้ ผลิตขึ้นมาครั้งแรกมีชื่อเรี ยกว่า PC-DOS เพื่อใช้กบั เครื่ องของบริ ษทั ไอบีเอ็ม ภายหลังเมื่อคอมพิวเตอร์ได้รับความนิยมมากขึ้นจนเกิดเครื่ องที่ผลิตขึ้นมาเลียนแบบ อย่างมากมายคล้ายกับเครื่ องของไอบีเอ็ม (IBM compatible ) บริ ษทั ไมโครซอฟต์ซ่ ึงมีทีมงานที่เคยผลิต PC-DOS ให้กบั ไอบีเอ็มมาก่อนจึงได้ทาระบบปฏิบตั ิการแบบใหม่ออกมาเป็ นของตนเองและเรี ยกชื่อใหม่ภายหลังว่า MS-DOS นัน่ เอง
Windows การทางานที่ตอ้ งคอยป้ อนคาสัง่ ทีละบรรทัดเพื่อเรี ยกทางานในระบบปฏิบตั ิการแบบ DOS นั้น สาหรับ ผูใ้ ช้ที่ไม่มีความรู้และความชานาญเพียงพอ มักจะจดจารู ปแบบคาสัง่ ต่าง ๆ ในการใช้งานได้ไม่ค่อยดีนกั บริ ษทั ไมโครซอฟต์จึงได้นาเอาแนวคิดของระบบการใช้งานที่เรี ยกว่า GUI (Graphical User Interface) ซึ่งมีผคู้ ิดค้นขึ้น ก่อนหน้านั้นไม่นานนักมาใช้ในระบบปฏิบตั ิการตัวใหม่ที่มีชื่อว่า Windows เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้ผใู้ ช้และ ระบบปฏิบตั ิการสามารถทางานงานร่ วมกันได้คล่องตัวมากยิง่ ขึ้น เพราะเป็ นการนาเอารู ปแบบของสัญลักษณ์ที่เป็ น ภาพกราฟิ กเข้ามาแทนการป้ อนข้อมูลคาสัง่ ทีละบรรทัดโดยที่ผใู้ ช้ไม่จาเป็ นต้องจดจาคาสัง่ ต่าง ๆ ก็สามารถใช้งาน ได้โดยง่าย Windows ใช้หลักการแบ่งงานออกเป็ นส่วน ๆ ที่เรี ยกว่า หน้าต่างงาน (windows) ซึ่งจะแสดงผลลัพธ์ ของแต่ละโปรแกรม ปัจจุบนั ได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างแพร่ หลายและมีการผลิตและจาหน่ายออกมาหลายๆ รุ่ นด้วยกันWindows XP เป็ นเวอร์ชนั ล่าสุดที่ได้มีการพัฒนาและจาหน่ายไปยังทัว่ โลก (เวอร์ชนั ต่อไปที่คาดว่าจะ ผลิตออกมามีชื่อรหัสว่า Longhorn คาดว่าจะมีการวางจาหน่ายประมาณปี 2006 – 2007)
Unix เป็ นระบบปฏิบตั ิการที่มกั ใช้กบั ผูท้ ี่มีความรู ้ทางด้านคอมพิวเตอร์ค่อนข้างมาก รองรับกับ การทางานของผูใ้ ช้ได้หลาย ๆ คนพร้อมกัน ( multi-user ) การปรับเปลี่ยนและแก้ไขระบบต่าง ๆ มีความยืดหยุน่ ในการทางานได้ดีกว่า ปั จจุบนั มีการพัฒนาระบบที่สนับสนุนให้ใช้งานได้ท้ งั แบบ เดี่ยวและแบบเครื อข่าย Mac OS X เป็ นระบบปฏิบตั ิการที่สร้างขึ้นเพื่อใช้งานเฉพาะเครื่ องคอมพิวเตอร์ของบริ ษทั แอป เปิ้ ลโดยเฉพาะเท่านั้น ซึ่งเน้นการใช้งานประเภทสิ่ งพิมพ์ กราฟิ ก และศิลปะเป็ นหลัก รุ่ นก่อน หน้านี้จนถึง Mac OS 9 เป็ นระบบปฏิบตั ิการแบบเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร แต่รุ่น OS X (X คือ เลข 10 แบบโรมัน) ได้รับการพัฒนามาจากระบบปฏิบตั ิการแบบ UNIX แต่กย็ งั เป็ นแบบ เฉพาะตัวอยู่ คือเครื่ องของบริ ษทั อื่นหรื อที่ประกอบขึ้นมาเองไม่สามารถที่จะใช้ระบบปฏิบตั ิการ ตัวนี้ได้เนื่องจากใช้ระบบการประมวลผลที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้รูปแบบและการทางานต่างๆของ Mac OS X จะมีระบบสนับสนุนแบบ GUI เช่นเดียวกันกับระบบปฏิบตั ิการWindows (และความจริ งใช้มาก่อน Windows เสี ยด้วยซ้ า)
Linux เป็ นระบบปฏิบตั ิการที่ได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกัน เนื่องจากเปิ ด ให้ใช้รวมถึงพัฒนาต่อยอด เพื่อแก้ไขชุดคาสั่งต่าง ๆ ได้ฟรี ในปั จจุบนั หลาย ๆ ประเทศได้พยายามส่ งเสริ มให้มีการใช้ ระบบปฏิบตั ิการตัวนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อลดปั ญหาการขาดดุลการค้า เนื่องจากการนาเข้าซอฟต์แวร์จาก ต่างประเทศ (ระบบปฏิบตั ิการเป็ นสิ นค้าประเภทหนึ่งที่สามารถผลิตขึ้นมาเพื่อจาหน่ายได้ทวั่ โลก เช่นเดียวกับสิ นค้าประเภทอื่น ๆ ซึ่ งหากความต้องการในประเทศมีมาก อาจจาเป็ นต้องสัง่ เข้าในปริ มาณที่ มากตามไปด้วย) รวมทั้งเพื่อลดปั ญหาในประเด็นของความมัน่ คงที่จะไม่ตอ้ งพึ่งพาเทคโนโลยีของ ต่างประเทศ อันได้แก่สหรัฐอเมริ กาด้วย ระบบ Linux พัฒนาโดยอาศัยต้นแบบการใช้งานของระบบ Unix และใช้โค้ดที่เขียนและเผยแพร่ ในแบบโอเพ่นซอร์ส (open source ) ที่เปิ ดเผยโปรแกรมต้นฉบับให้ ผูใ้ ช้สามารถจะพัฒนาและแก้ไขระบบต่าง ๆ ได้เองตามที่ตอ้ งการ
2. ระบบปฏิบตั ิการแบบเครื อข่าย ( network OS ) Windows Server เป็ นระบบปฏิบตั ิการที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับระบบเครื อข่ายโดยเฉพาะ รุ่ น แรกออกมาในชื่อ Windows NT และพัฒนาต่อมาเป็ น Windows 2000 และรุ่ นล่าสุ ดคือ Windows Server 2003 ผลิตออกมาเพื่อรองรับกับการใช้งานในระดับองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง พัฒนาโดยบริ ษทั ไมโครซอฟต์ ส่ วนใหญ่เหมาะกับการติดตั้งและใช้งานกับเครื่ องประเภทแม่ข่าย (Server ) OS/2 Warp Server เป็ นระบบปฏิบตั ิการเครื อข่ายอีกรู ปแบบหนึ่ง ออกแบบมาสาหรับการใช้ งานคอมพิวเตอร์แบบเครื อข่ายสาหรับองค์กรได้เป็ นอย่างดี พัฒนาโดยบริ ษทั ไอบีเอ็มเพื่อใช้เป็ น ระบบที่ควบคุมเครื่ องแม่ข่ายหรื อ Server เช่นเดียวกัน แต่ไม่ประสบความสาเร็ จอย่างที่หวัง และ เลิกพัฒนาต่อไปแล้ว Solaris เป็ นระบบปฏิบตั ิการเครื อข่ายที่อยูใ่ นตระกูลเดียวกับระบบปฏิบตั ิการ Unix (Unix compatible) พัฒนาขึ้นโดยบริ ษทั ซัน ไมโครซิสเต็มส์ สามารถรองรับการทางานแบบเครื อข่ายได้ เช่นเดียวกับระบบอื่น
3. ระบบปฏิบตั ิการแบบฝัง ( embedded OS ) Pocket PC OS (Windows CE เดิม) บริ ษทั ไมโครซอฟต์ ผูผ้ ลิตระบบปฏิบตั ิการยักษ์ใหญ่ที่มีความชานาญจากการ สร้างระบบที่ใช้สาหรับเครื่ องพีซีมาก่อน ได้หนั มาเน้นการผลิตเพื่อใช้งานร่ วมกับการควบคุมในอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กมากยิง่ ขึ้น โดยสร้างระบบปฏิบตั ิการตัวใหม่ที่มีชื่อเรี ยกว่า Pocket PC OS (เดิมใช้ชื่อว่า Windows CE หรื อ Windows Consumer Electronics แต่มีการตั้งชื่อใหม่น้ ีในภายหลังซึ่งเริ่ มตั้งแต่เวอร์ชนั 3.0 ขึ้นไป เพื่อให้ชื่อของระบบปฏิบตั ิการตัวดังกล่าวเหมือนกับชื่อของเครื่ องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กไปเลย) การทางานของ ระบบปฏิบตั ิการดังกล่าว เป็ นลักษณะที่ยอ่ ขนาดการทางานของ Windows ให้มีขนาดเล็กลงและกะทัดรัดต่อการใช้ งานมากขึ้น (scaled-down version ) สามารถรองรับการทางานแบบ multi-tasking ได้เช่นเดียวกันกับ OS ตัวอื่น ๆ เช่น ท่องเว็บหรื อค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตไปได้พร้อม ๆ กับการฟังเพลงหรื อตรวจเช็คอีเมล์ได้พร้อม ๆ กับการ สร้างบันทึกช่วยจา เป็ นต้น ผูใ้ ช้ที่คุน้ เคยกับระบบปฏิบตั ิการของ Windows มาก่อนจะใช้งานได้ง่ายและสะดวกมาก เนื่องจากรู ปแบบและหน้าต่างการทางานจะคล้าย ๆ กัน ปัจจุบนั อาจพบเห็นในโทรศัพท์มือถือประเภท Smart phone บางรุ่ นบ้างแล้ว
Palm OS เป็ นระบบปฏิบตั ิการที่ถือได้วา่ เกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กันกับการนาเอาคอมพิวเตอร์แบบ พกพามาใช้ในยุคแรก ๆ เรี ยกกันว่าเครื่ อง Palm ( ผลิตขึ้นโดยบริ ษทั ปาล์ม) ซึ่งได้รับความนิยม อย่างแพร่ หลายในเวลาต่อมา เป็ นระบบที่พฒั นาขึ้นมาก่อน Windows CE หรื อ Pocket PC OS ของไมโครซอฟต์ (เนื่องจากมีการผลิตเครื่ องขึ้นมาใช้งานก่อนนัน่ เอง) ปัจจุบนั อาจพบเห็นการ นาเอาระบบนี้ไปใช้กบั คอมพิวเตอร์แบบพกพาของค่ายบริ ษทั ผูผ้ ลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีช้ นั นา นอกเหนือจากเครื่ องของบริ ษทั ปาล์มด้วย เช่น Visor (ของค่ายแฮนด์สปริ งซึ่ งปัจจุบนั รวมกิจการ เข้ากับบริ ษทั ปาล์มไปแล้ว) และ CLIE (ของค่ายโซนี่ที่ยตุ ิการผลิตไปแล้ว) ซึ่งก็ใช้ ระบบปฏิบตั ิการแบบนี้ดว้ ยเช่นกัน
Symbian OS เป็ นระบบปฏิบตั ิการที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกับเทคโนโลยีการสื่ อสารแบบไร้ สาย (wireless ) โดยเฉพาะอย่างยิง่ กับโทรศัพท์มือถือประเภท Smart phone นอกจากนั้นยัง สนับสนุนการทางานแบบหลาย ๆ งานในเวลาเดียวกันได้ดว้ ย (multi-tasking ) ซึ่งทาให้ โทรศัพท์มือถือมีความสามารถที่นอกเหนือจากแค่รับสายพูดคุยในแบบทัว่ ไปเพียงอย่างเดียว เช่น การบันทึกการนัดหมาย ท่องเว็บ ล่งและรับอีเมล์รวมถึงรับแฟกซ์ได้ในเวลาเดียวกัน ผลิต โดย บริ ษทั ซิ มเบียน ซึ่งเป็ นบริ ษทั ที่ร่วมทุนระหว่างผูผ้ ลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่หลายค่าย นา โดย Nokia และ Sony ปัจจุบนั มีบริ ษทั ยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ได้เอา OS ชนิดนี้ไปใช้งานแล้วใน โทรศัพท์มือถือของตน เช่น Sony Ericsson, Motorola, Nokia และ Samsung เป็ นต้น
ภาพรวมอืน่ ของระบบปฏิบัตกิ าร (Other views of the OS) OS ทาหน้าที่เป็ นผูจ้ ดั สรรทรัพยากรภายในระบบ (resource allocator)ดูและและจัดสรรให้ใช้ทรัพยากร อัน ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ (hardware),ซอฟต์แวร์ (Software) และข้อมูล (data) ในระหว่างการทางานภายในระบบได้อย่าง เหมาะสมและถูกต้อง จัดเตรี ยมสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ระหว่างที่โปรแกรมมีการทางาน OS ทาหน้าที่ควบคุมการทางานของโปรแกรม (control program)ควบคุมการประมวลผล (execution) ของโปรแกรมและ ป้ องกันโปรแกรมผูใ้ ช้จากข้อผิดพลาดและการใช้งานโปรแกรมที่ไม่เหมาะสมในระบบต้องควบคุมการทางานและ การจัดสรรอุปกรณ์ ไอโอ (I/O devices)
แหล่ งอ้ างอิง
https://preeya034.wordpress.com http://nakizacom.weebly.com https://issaratech.wordpress.com https://sites.google.com/