Data Loading...

มโนราบัลเล่ Flipbook PDF

มโนราบัลเล่


142 Views
159 Downloads
FLIP PDF 1.78MB

DOWNLOAD FLIP

REPORT DMCA

คู ม ่ อ ื ประกอบการเรียนรู ้ ชุด มโนราห ์บัลเลต ์ กับทฤษฎีการเรียนรู ้พุทธิ ปั ญญานิ ยม นาย สิรวิชญ์ วุฒริ ตั น์

คณะครุศาสตร์ สาขาวิชานาฏยศิลป์ ศึกษา มหาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

สารบัญ

▰ ที่มาและความสาคัญมโนราบัลเล่ย ์ ▰ การแสดงมโนราห์บลั เลต์ครั้งที่ ๑ ▰ องค์ประการแสดงชุดมโนราบัลเลย์ ▰ กระบวนการเรี ยนรู ้องค์ประกอบการแสดงชุด “มโนราห์บลั เลต์” ผ่านพุทธิ ปัญญานิยม ▰ ความคิดพื้นฐานของทฤษฎีการเรี ยนรู ้พทุ ธิ ปัญญานิยม ▰ ขอบเขตที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรู ้คิด (Cognitve Process)

2

ทีม่ าและความสาคัญ มโนราห์ บ ัล เลต์เ ป็ นศิ ล ปะการแสดง นาฏศิ ล ป์ ร่ ว มสมัย ที่ มี ก ารผสมผสาน ระหว่ า งนาฏศิ ล ป์ ไทยและนาฏศิ ล ป์ ตะวันตก

ได้รับอิทธิ พลมาจึงเกิดเป็ นชุดการแสดงที่ถูก สร้างสรรค์ข้ ึนมาใหม่ให้เข้ากับยุคในปั จจุบนั โดยพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พลอดุ ลยเดชมหาราชบรมนาถบพิ ต ร พระมหากษัตริ ยล์ าดับที่ ๙

3

การแสดงมโนราห์ บัลเลต์ ครั้งที่ ๑ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ▰

คุ ณ หญิ ง เจเนเวี ย ฟ เลสปั น ยอล เดมอน ▰ ได้ถูกบรรจุอยูใ่ นการแสดงมหรสพสมโภช ศิ ล ปิ นบัล เลต์ ผู ้มี ชื่ อ เสี ยงระดั บ โลกชาว งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ฝรั่ งเศส ผูป้ ระดิ ษฐ์ท่าเต้นบัลเลต์ประกอบ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอ บทเพลงพระราชนิ พ นธ์ ที่ พ ระองค์ไ ด้ท รง ดุ ลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในวันที่ ประพันธ์ข้ ึน จวบจนครั้งสุ ดท้ายที่ได้ทาการ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ณ เวทีที่ ๓ โดย แสดงบัลเลต์เรื่ องมโนราห บรรจุ อยู่ในองค์ที่ ๑ ใช้เวลาในการแสดง ประมาณ ๓๕ นาที ของการแสดงดนตรี สากล “ธ คือดวงใจไทยทัว่ หล้า” 4

องค์ ประกอบการแสดงชุด “มโนราห์ บัลเลต์ ” การศึกษาองค์ประกอบการแสดงชุดมโนราห์บลั เลต์ผวู ้ จิ ยั ได้กาหนดองค์ประกอบไว้ ๖ องค์ประกอบ ได้แก่ ▰ เนื้อเรื่ อง ▰ ตัวละคร ▰ กระบวนท่า ▰ เครื่ องแต่งกาย ▰ ดนตรี ▰ ฉาก 5

เนื้อเรื่ องมโนราห์ บัลเลต์ ในงานมหรสพสมโภชปี ๒๕๖๐ ▰ เดิ ม มี เ ค้า โครงเรื่ อ งมาจากวรรณกรรมเรื่ อง พระสุ ธน – มโนราห์ ได้มีการตัดตอนให้ กระชับสั้นลงโดยสามารถแบ่งการแสดงออก ได้เป็ น ๕ ช่วงของการแสดงดังนี้ ▰ ช่วงที่ ๑ นั้นจะเป็ นการเปิ ดเรื่ องมาที่ฉากในป่ าหิ มพานต์มี หนังใหญ่ที่ฉลุเป็ นภาพของป่ าและสัตว์ต่าง ▰ ช่วงที่ ๒ นั้นได้ปรากฏตัวของพรานบุญที่ได้พบเจอกับ นางมโนราห์ในป่ าหิ มพานต์และคิดที่จะจับตัวของนาง มโนราห์น้ นั ไปถวายให้แก่ปุโรหิ ตผูร้ ิ ษยา 6

เนื้อเรื่ องมโนราห์ บัลเลต์ ในงานมหรสพสมโภชปี ๒๕๖๐ (ต่ อ) ▰ ช่ วงที่ ๓ ได้มีเหล่านางกิ นรี ท้ งั ๖ ตน ที่ เป็ นพี่น้อง ▰ ช่ วงที่ ๕ ช่ วงสุ ดท้ายของการแสดง หลังจากที่ ท้ งั ๒ ของนางมโนราห์ ได้อ อกมาเต้น ร าควบคู่ กับ นาง ได้ พ บเจอกั น และเกิ ด ความรั ก ให้ แ กกั น จากนั้ น มโนราห์ ด้ ว ยท่ า ทางลี ล าที่ อ่ อ นหวาน ร่ าเริ ง พระสุ ธ นก็ ไ ด้เ ชิ ญ ให้ น างมโนราห์ ข้ ึ นไปที่ ร าชรถ ของตนและพระสุ ธ นก็ ไ ด้ต ามนางมโนราห์ ข้ ึ น ไป สนุกสนาน มีความสุ ข ประกบกั น ด้ ว ยท่ ว งท่ า ของความรั ก ที่ มี ใ ห้ แ ก่ กั น ▰ ช่วงที่ ๔ ของการแสดงได้เผยตัวตนของผูแ้ สดงตัว ประกอบกับเหล่าบันดาสัตว์ต่าง ๆ ก็ได้ออกมาแสดง ละครเอกอีกตัวนั้นคือ พระสุ ธน ที่ได้มาพบกับนาง ความยินดีปรี เปรมให้กบั ทั้งสองได้ครองรักกัน มโนราห์ แ ละได้เ กิ ด ชอบพอกัน จนทั้ง ๒ ได้เ กิ ด ความรั กขึ้ นมีการเกี้ ยวพาราสี กนั ผ่านบทเพลงและ ลีลาท่าเต้น 7



ตัวละครมนุ ษย ์ ความหมายคาว่า “มนุ ษย์” คือ สัตว์ที่รู้จกั ให้เหตุและผล สัต ว์ที่ มี จิ ต ใจสู ง มนุ ษ ย์ไ ว้ ๓ ส่ ว นใหญ่ ๆ คื อ มนุ ษ ย์ คื อ สั ต ว์ที่ มี เหตุผล (Man is rational animal) มนุษย์เป็ นสัตว์ที่รู้จกั คิด (Man is thinking animal) และมนุษย์เป็ นสัตว์สงั คม

8

ตัวละครมนุษย์ พระสุ ธน เป็ นตัวละครเอกรองจากนางกินรี โดย ตัวละครพระสุ ธนนั้นเป็ นตัวละครมนุษย์ที่เป็ น คู่รักกับนางกินรี ในเรื่ อง

พรานบุญ ตัวละครพรานบุญนั้นเป็ นตัว ละครตัวร้ายที่ตอ้ งการที่จะจับตัวนางกินรี ตามคาสัง่ ของปุโรหิ ตผูร้ ิ ษยา

9



ตัวละครอมนุษย์ สิ่ งที่มีรูปร่ าง เค้าโครงคล้ายๆ มนุ ษย์ แต่ไม่ใช่มนุ ษย์ เช่น สัตว์ในป่ าหิ มพานต์ที่ปรากฏในวรรณคดีของไทย มีท้ งั เงือก คนธรรน์ วิทยาธร และ นารี ผล ซึ่ งมีรูปร่ างในบางส่ วนใกล้เคียง กับมนุษย์ หรื อ อสุ รกายที่อยูใ่ นภพภูมิมนุษย์

10

ตัวละครอมนุษย์ เป็ นธิ ดาองค์เล็กของท้างทุมราชผูเ้ ป็ นพระยากินนร นางมีพระพี่นางอีกหกองค์ลว้ นมีหน้าตาเหมื อน ๆ กัน งดงามยิง่ กว่านางมนุษย์ รู ปร่ างหน้าตาของพวก เขาเหมือนมนุษย์แต่มีปีกและหางที่ถอดออกได้

บทตัวละครนางกินรี น้ นั มีดว้ ยกันอยู่ ๖ ตน โดยนางกินรี เป็ นเหล่าพี่นอ้ งกับนาง มโนราห์

11

“ คือตัวละครที่มีบทบาทรองลงไปจากตัว ตัวละครประกอบฉาก

ละครเอก เป็ นตัวละครที่ทาให้เรื่ องราวหรื อ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวละครเอก เคลื่อนไหวไปสู่ จุดหมายปลายทาง 12

ตัวละครประกอบฉาก ดอกบัว

เสื อ

ผึ้ง

13

ตัวละครประกอบฉาก กวาง

ผีเสื้ อ

ลิง

14

ตัวละครประกอบฉาก งู

นกยูง

พญานาค

15

ตัวละครประกอบฉาก ดอกดาวเรือง

หญ้าแฝก

16

ตัวละครไม่ มีชีวติ นา้

17

อุปกรณ์ ประกอบฉาก ราชรถ

หนังใหญ่

18



การออกแบบและกากับลีลา การเต้น บัล เลต์เ ป็ นการเต้น ที่ มี เ ทคนิ ค เฉพาะ เช่ น Turn Out, arabesque, assemblé, Attitude, การจัดสมดุลร่ างกาย, การยืนบนปลาย เท้า ฯลฯ ท่าทางในการฝึ กปฏิบตั ิมาประกอบไว้ ๖ ท่า ด้วยกันดังนี้ 19

ตัวละครประกอบฉาก ท่า Passe Tilt

ท่า Arabesque Lift

ท่า Attitude Pulse

20

ตัวละครประกอบฉาก ท่า A La Seconde

ท่า Half Moon Tilt

ท่า Flat Back Pile

21



ท่ าทางต่ าง ๆ ในบัลเลต์ เริ่มจากเบสิ คทีท่ ุกคนควรรู้ซึ่งมี อยู่ ๕ ท่ า เรียกว่ า five position of ballet แบ่ งเป็ น ๕ ตาแหน่ งของเท้ า และ ๕ ตาแหน่ งของแขน

22

ตาแหน่ งของเท้ า ตาแหน่งที่ ๑ เรี ยกว่า First position ขาทั้งสองข้างชิด กันปลายเท้าแยกกันให้มากที่สุด(180 องศา หรื อเป็ น เส้นตรงคือเป้าหมายที่เพอร์เฟค)

ตาแหน่งที่ ๒ เรี ยกว่า Second position มีความ คล้ายคลึงกับท่าแรกแต่ขาของเราจะแยกออกจากกันเล็กน้อย

23

ตาแหน่ งของเท้ า ตาแหน่ งที่ ๓ เรี ยกว่า Third position เราจะขยับเท้า ต าแหน่ ง ที่ ๔ เรี ยกว่ า Forth position วางเท้ า ไป ข้า งขวาเข้า หาเท้า อี ก ข้า งโดยส้ น เท้า ข้า งขวาจะอยู่ที่ จุ ด ข้างหน้าเท้าซ้ายโดยปลายเท้าขวาตรงกับส้นเท้าซ้ายส่ วนส้น เท้าขวาตรงกับปลายเท้าซ้าย กึ่งกลางของเท้าข้างซ้าย

24

ตาแหน่ งของเท้ า ตาแหน่งที่ ๕ เรี ยกว่า Fifth position เลื่อนเท้าขวามาติดกับเท้าซ้ายโดยปลายเท้าทั้งสองชี้ไปในทางตรงข้ามกัน

25

ตาแหน่ งของแขน ตาแหน่งที่ ๑ เรี ยกว่า First position ยกแขนให้อยูใ่ น ระดับอก

ตาแหน่งที่ ๒ เรี ยกว่า Second position เปิ ดแขนทั้ง สองข้างออกไปให้เป็ นเส้นตรงระดับเดียวกับไหล่

26

ตาแหน่ งของแขน ตาแหน่งที่ ๓ เรี ยกว่า Forth position นาแขนข้างซ้าย กลับมาอยูใ่ นระดับอก

ตาแหน่งที่ ๔ เรี ยกว่า Third position ยกแขนข้างขวา ขึ้นไปเหนือหัวของเรา แขนอีกข้างยังคงอยูท่ ่าเดิม

27

ตาแหน่ งของแขน ตาแหน่งที่ ๕ เรี ยกว่า Fifth position นาแขนข้างซ้ายขึ้นไปอยูใ่ นระดับเดียวกันกับแขนขวา

28

กระบวนท่ าการเต้ น ▰ นางมโนราห์ การเคลื่ อ นไหวจะมี ก ริ ย าที่ ผ สมทั้ง มนุ ษ ย์แ ละสั ต ว์ใ นเวลา เดียวกันมีลีลาเคลื่อนไหวร่ างกายที่กระชับ คล่องแคล่ว รวดเร็ ว และอ่อนหวาน ▰ โดยผูว้ ิจยั ได้นารู ปภาพมาประกอบการวิเคราะห์ท่าเต้น คือท่า แอทติจูด,เดอดิ แยร๋ ,ส่ วนมือ เธริ ด โพสิ ชนั่ อแดปดีเทลมือเป็ นจีบ มีการเขย่าบนปลายเท้าช่วง นิ้วโป้ ตั้งตรงขาขวา ยกขาซ้ายขึ้นไปด้านหลัง เปิ ดสะโพกออก ยกไปจนได้ถึง ๙๐ องศาแล้วงอเข่าเล็กน้อย พ้อยปลายเท้า จากนั้นยกมื อทั้งสองข้างขึ้ นไป ด้านหน้า มือขวาจะอยูส่ ู งกว่ามือซ้ายทามุม ๔๕ องศา ดึงกล้ามเนื้ อหลังเข้าหา กัน hold เกร็ งท่าทางนี้ให้คงไว้

29

กระบวนท่ าการเต้ น ▰ พญานาค เป็ นตัวละครที่เป็ นสัตว์ในป่ าหิ มพานต์ ตัวละคร นี้กจ็ ะมีการเคลื่อนไหวในรู ปลักษณ์เดียวกันเป็ นกลุ่มเป็ น ก้อนมีการเคลื่อนไหวที่เลียนแบบลักษณ์ของสัตว์กค็ ือการ เลื้อยและการเคลื่อนไหวของงูผสมผสาน ▰ โดยผูว้ จิ ยั ได้นารู ปภาพมาประกอบการวิเคราะห์ท่าเต้น คือ ท่า พรี เย, แอดติจูด เดอวองก์ ยกขาซ้ายขั้นไปด้านหน้า พ้อยปลายเท้า งอขาเล็กน้อย ทามุม ๙๐ องศา กับขาที่ยนื อยู่

30

กระบวนท่ าการเต้ น ▰ พระสุ ธน ลักษณะของท่าทางการเต้นของตัวละครนี้ จะมีการเกี้ ยว พาราสี กนั อยู่มาก เพราะผูอ้ อกแบบต้องการให้แสดงออกถึงความ รั กที่พระสุ ธนนั้นมี ให้แก่ นางมโนราห์และอยากที่จะปกป้ องดูแล นางตลอดเคียงข้างกาย ▰ โดยผูว้ ิจยั ได้นารู ปภาพมาประกอบการวิเคราะห์ท่าเต้น คือท่า โฟท์ โฟซี ชนั่ ขาขวาวางเต็มเท้า ขาซ้ายพ้อยปลายเท้าไปด้านหลังยืดสุ ด แอ่นอกขึ้น พร้ อมยกมือซ้ายขึ้นข้างบนสุ ดแขนและวางมือขวาทา มุมบริ เวณเอว เชิดหน้าขึ้น ๔๕ องศา

31



เครื่ องแต่ งกายประกอบการแสดง นายศักดิ์ สิ ทธิ์ พิศาลสุ พงศ์ และ นายพิสิฐ จงนรั งสิ น ดี ไซเนอร์ จากแบรนด์ “Tube Gallery” ยกตัวอย่างชุดของนางกินรี น้ นั เป็ นชุดที่ทายากที่สุดกว่า ชุดตัวละครอื่น ๆ เพราะชุดเดิมจะมีความเป็ นบัลเลต์สูง เป็ นกินรี สีขาว แต่ชุด กิ นรี ในการแสดงครั้ งล่าสุ ดได้ตน้ แบบมาจากรู ปปั้ นกิ นรี สีทองที่วดั พระแก้ว ด้วยท่าเต้นที่ยากเสื้ อผ้าจาเป็ นต้องซัพพอร์ตผูเ้ ต้นเช่นกัน

32

ดนตรีประกอบการแสดง ▰ ๑. เพลงเริ งวนารมย์ การเปิ ดเรื่ องมาที่ฉากในป่ าหิ มพานต์มีหนังใหญ่ที่ฉลุเป็ นภาพของป่ าและสัตว์ต่าง ๆใช้คนเป็ น ผูเ้ ชิดและตัวละคร ดอกบัว ดอกดาวเรื อง เสื อ ผึ้ง กวาง ผีเสื้ อ ลิง งู สายน้ า นกยูงออกมาเต้นระบาปลายเท้า ▰ ๒. เพลงพรานไพร นั้นได้ปรากฏตัวของพรานบุญที่ได้พบเจอกับนางมโนราห์ในป่ าหิ มพานต์และคิดที่จะจับตัว ของนางมโนราห์น้ นั ไปถวายให้แก่โลหิ ตผูร้ ิ ษยา ▰ ๓. เพลงกินรี ระหว่างนั้นเอง ก็ได้มีเหล่านางกินรี ท้ งั ๖ตน ที่เป็ นพี่นอ้ งของนางมโนราห์ ได้ออกมาเต้นราควบคู่กบั นางมโนราห์ดว้ ยท่าทางลีลาที่อ่อนหวาน ▰ ๔.เพลงภิรมย์รัก ของการแสดงได้เผยตัวตนของผูแ้ สดงตัวละครเอกอีกตัวนั้นคือ พระสุ ธน ที่ได้มาพบกับนาง มโนราห์และได้เกิดชอบพอกัน ▰ ๕.เพลงอาทิตย์อบั แสง ช่วงสุ ดท้ายของการแสดงพระสุ ธนกับนางมโนราห์ได้ครองรักกันประกอบกับเหล่าบันดา สัตว์ต่าง ๆ ก็ได้ออกมาแสดงความยินดีปรี เปรมให้กบั ทั้งสอง

33

ฉาก มีฉากทั้ง ๕ ฉากด้ วยกันดังนี้

▰ ๑. ฉากประกอบเพลง Nature Waltz หรื อ เริ ง วนารมย์ บรรยายธรรมชาติสวยงามของสรรพสัตว์

▰ ๒. ฉากประกอบเพลง The Hunter หรื อ พรานไพร พรรณนาถึงพรานบุญที่ตอ้ งการจับนางมโนราห์ไปถวาย ปุโรหิ ต

34

ฉาก ▰ ๓.ฉากประกอบเพลง Kinari Waltz หรื อ กินรี พรรณนาถึงพี่นอ้ งกินรี ท้ งั ๗ นาง ที่ออกมาเล่นน้ า

▰ ๔.ฉากประกอบเพลง A Love Song หรื อ ภิรมย์ รัก เป็ นเพลงที่มีคาร้องประกอบและเป็ น Love Theme ระหว่างพระสุ ธนมโนราห์

35

ฉาก ▰ ๕. ฉากประกอบเพลง Blue Day หรื อ อาทิตย์อบั แสง ราพันพรรณนาถึงการครองรักกันของพระสุ ธนและ นางมโนราห์บนราชรถ

36

กระบวนการเรียนรู้องค์ประกอบการแสดงชุด “มโนราห์ บัลเลต์ ” ผ่านพุทธิปัญญานิยม ๑. ทฤษฎีการเรียนรู้ พทุ ธิปัญญานิยม เพียเจต์ (Piaget) ทฤษฎีน้ ีถือว่าผูเ้ รี ยนเป็ นผูก้ ระทา (active) และเป็ นผูส้ ร้างความรู ้ข้ ึนในใจเอง ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มีบทบาทในการก่อให้เกิดความไม่สมดุลทางพุทธิ ปัญญาขึ้นเป็ นเหตุให้ผเู ้ รี ยน ปรับความเข้าใจเดิมที่มีอยูใ่ ห้เข้ากับ ข้อมูลข่าวสารใหม่ จนกระทัง่ เกิดความสมดุลทางพุทธิ ปัญญา หรื อเกิดความรู ้ใหม่ข้ ึน ๒. การนาทฤษฎีการเรียนรู้ พทุ ธิปัญญานิยมมาประยุกต์ ใช้ ในการเรียน กลุ่มพุทธิ ปัญญา ให้ความสนใจเกี่ ยวกับกระบวนการคิด การให้เหตุผลของผูเ้ รี ยน ซึ่ งแตกต่างจาก ทฤษฎีการเรี ยนรู ้ของกลุ่มพฤติกรรมนิ ยม (Behaviorism) ที่มุ่งเน้นพฤติกรรมที่สังเกตได้เท่านั้น โดยมิได้ สนใจกับกระบวนการคิดหรื อกิจกรรมทางสติปัญญาของมนุษย์ (Mental activities) 37

ความคิดพืน้ ฐานของทฤษฎีการเรียนรู้ พทุ ธิปัญญานิยม ▰ ๑.ผูเ้ รี ยนสร้างความเข้าใจในสิ่ งที่เรี ยนรู ้ดว้ ยตนเอง ▰ ๒.การเรี ยนรู ้สิ่งใหม่ข้ ึนกับความรู ้เดิมและความเข้าใจที่มีอยูใ่ นปั จจุบนั ▰ ๓.การมีปฏิสมั พันธ์ทางสังคมมีความสาคัญต่อการเรี ยนรู ้

▰ ๔.การจัดสิ่ งแวดล้อม กิจกรรมที่คล้ายคลึงกับชีวติ จริ ง ทาให้ผเู ้ รี ยนเกิดการเรี ยนรู ้อย่างมีความหมาย

38

ขอบเขตทีเ่ กีย่ วข้ องกับกระบวนการรู้ คดิ (Cognitve Process) มี ๑๐ ข้ อ ได้ แก่ ▰ ๑.ความใส่ ใจ (Attending) ผูเ้ รี ยนได้ทราบถึงประวัติและความเป็ นมาโดยย่อของการแสดงชุดมโนราห์บลั เลต์แต่ไม่เพียงแค่ ประวัติจากเนื้อเรื่ องเท่านั้นผูเ้ รี ยนยังจะสามารถได้ทราบถึงการเกิดแนวคิดของการแสดงและการจัดวาง องค์ประกอบของการแสดงแต่ละครั้งอีกด้วยโดยมีประวัติความเป็ นมาของมโนราห์บลั เลต์ ▰ ๒. การรับรู ้ (Perception) ผูเ้ รี ยนจาเป็ นที่จะต้องเข้าใจและรับรู ้ได้ถึงทุกส่ วนของการแสดงโดยการเจาะลึกทาความเข้าใจใน เนื้องานอย่างแก่นแท้ ก็คือการได้เรี ยนรู ้และเข้าใจในส่ วนประกอบขององค์ประกอบการแสดงทั้ง ๕ องค์ประกอบ 39

ขอบเขตทีเ่ กีย่ วข้ องกับกระบวนการรู้ คดิ (Cognitve Process) มี ๑๐ ข้ อ ได้ แก่ ▰ ๓. การจาได้ (Remembering) ผูเ้ รี ยนนั้นจะต้องสามารถเข้าใจและแยกแยะความเหมือนกับความต่างของวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับ การแสดงได้ ▰ ๔. การคิดอย่างมีเหตุผล (Reasoning) ผูเ้ รี ยนสามารถสร้างความเข้าใจในลาดับขั้นตอนของการแสดงชุดมโนราห์บลั เลต์ ได้ถึงลาดับ ขั้นตอนของการแสดงโดยลาดับของการแสดงนั้นจะแบ่งออกด้วยกัน ๕ ลาดับตามเนื้อเรื่ องอย่างไม่ซบั ซ้อน ▰ ๕. จินตนาการหรื อการวาดภาพในใจ (Imagining) ผูเ้ รี ยนจะสามารถแยกแยะและเปรี ยบเทียบความเหมือนกับความต่างของตัวละครผ่านลีลาท่าทางการ เต้นและจุดสาคัญอีกอย่างนั้นคือ ชุดที่นกั แสดงได้สวมใส่ ซ่ ึงนับเป็ นจุดเด่นและจุดประกายของผลงานการแสดง อย่างมาก

40

ขอบเขตทีเ่ กีย่ วข้ องกับกระบวนการรู้ คดิ (Cognitve Process) มี ๑๐ ข้ อ ได้ แก่ ▰ ๖. การคาดการณ์ล่วงหน้าหรื อการมีแผนการณ์รองรับ (Anticipating) ผูเ้ รี ยนจะสามารถเข้าใจได้ถึงขั้นตอนและการบริ หารจัดการการแสดงของทีมงานผูส้ รรค์การแสดง ชุดมโนราห์บลั เลต์ ▰ ๗. การตัดสิ นใจ (Decision) ผูเ้ รี ยนสามารถวิเคราะห์ได้ถึงท่าเต้นของตัวละครว่ามีลกั ษณะและความต่างอย่างไร ในการออกแบบ ท่าเต้นของตัวละครแต่ละตัวโดยท่าเต้นนั้นจะมีความเป็ นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผูแ้ สดง ▰ ๘. การแก้ปัญหา (Probiem Soiving) ผูเ้ รี ยนสามารถสังเกตุดูขอ้ ผิดพลาดหรื อข้อบกพร่ องของการแสดงและการเต้นได้โดยสามารถ ปรับแต่งและเปลี่ยนแปลงรู ปแบบการเต้นเพื่อให้เหมาะสมดูสวยงามสร้างความหมายในลีลาการเต้นและ องค์ประกอบการเต้นต่าง ๆได้

41

ขอบเขตทีเ่ กีย่ วข้ องกับกระบวนการรู้ คดิ (Cognitve Process) มี ๑๐ ข้ อ ได้ แก่ ▰ ๙. การจัดกลุ่มสิ่ งต่าง ๆ (Classifying) ผูเ้ รี ยนสามารถแยกแยะความสามารถของผูแ้ สดงได้ถึงลีลาการเต้นการบริ หารจัดการสรี ระของผูแ้ สดง การเคลื่อนไหวร่ างกาย ▰ ๑๐. การแปลความหมาย (Interpreting) ผูเ้ รี ยนจะได้ทราบถึงการตีความเรื่ องมโนราห์บลั เลต์วา่ มีที่มาและประวัติก่อนที่จะกลายมาเป็ นการแสดง มโนราห์บลั เลต์ได้อย่างไร

42

วีดโี อมโนราห์ บัลเลต์ ในงานมหรสพสมโภชปี ๒๕๖๐

43