Data Loading...

ประวัติพิมพ์ดีดไทย Flipbook PDF

ผลงานนี้เป็นของ (นส ศศิวิมล เพ็ชรพูน)


122 Views
135 Downloads
FLIP PDF 371.11KB

DOWNLOAD FLIP

REPORT DMCA

รายงาน เรื่อง ประวัติความเป็นมาของพิมพ์ดีดไทย จัดทาโดย นางสาว ศศิวิมล เพ็ชรพูน ชั้น ป ว ช ปีที่1 แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ เสนอ คุณครู รุจฬิ า เพียรอดวงษ์ คานา

หนังสือเรียน วิชาพิมพ์ไทยขั้นพัฒนา รหัสวิชา 2203-2101 เล่มนี้ ได้เรียบเรียงขึ้นตรงตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พ.ศ. 2556 ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษามุ่งให้ผู้เรียน มีความรู้ มีทักษะในการพิมพ์ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน แบบฐานสมรรถนะอาชีพ และบูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เนื้อหาวิชาพิมพ์ดีดไทยขั้นพัฒนา ประกอบด้วย ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับการใช้เครื่องพิมพ์และเครื่องคอมพิวเตอร์ การพิมพ์วางศูนย์ การพิมพ์บัญชร การแก้ไขข้อผิดลาดในการพิมพ์ และการพิมพ์แบ่ง คา การพิมพ์หนังสือราชการ การพิมพ์จดหมายธุรกิจไทยแบบ ราชการ จดหมายธุรกิจไทยแบบต่างประเทศ การพิมพ์จากร่างและ การฝึกพิมพ์เพื่อพัฒนาทักษะความแม่นยา ซึ่งในแต่ละบทเรียนจะมี แบบฝึกพิมพ์เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ฝึกปฏิบัติ และทบทวนบทเรียนทีไ่ ด้ จัดไว้ให้ จึงจะทาให้สามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ผู้เรียบเรียงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะมีประโยชน์ต่อการ เรียนการสอนโดยการนามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม

ผู้จัดทา(นางสาว รัตน์ติยาภรณ์ บุญชู)

สารบัญ หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้เครื่องพิมพ์ดีดและเครื่องคอมพิวเตอร์ และประวัติเครื่องพิมพ์ดีดไทย หน่วยที่ 2 การพิมพ์วางศูนย์ตามแนวนอนและแนวตั้ง หน่วยที่ 3 การพิมพ์บัญชร หรือการพิมพ์เว้นระยะจากัดตอน หน่วยที่ 4 การแก้ไขขอผิดพลาดในการพิมพ์ และการพิมพ์แบ่งคา

หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้เครื่องพิมพ์ ดีดและเครื่องคอมพิวเตอร์ และประวัติเครื่องพิมพ์ดีดไทย เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยกาเนิดขึ้นในรัชสมัยพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อ Hunter หมอสอน ศาสนาชาวอเมริกันที่เกิดในประเทศไทย ซึ่งมีตาแหน่งเป็น เลขานุการส่วนพระองค์ ในสมเด็จกรมพระยาดารงราชานุ ภาพ เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ได้เกิดความคิดที่จะสร้าง เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยขึ้น พ.ศ.2434 เขาได้เดินทางไป ยังสหรัฐอเมริกาเพื่อสารวจว่าจะมีบริษัทใดที่สนใจผลิต เครื่องพิมพ์ดีดเป็นภาษาไทยบ้าง ซึ่งก็พบว่าบริษัท Smith Premier ในเมือง New York สนใจที่จะร่วมผลิต ดังนั้น จึงได้ร่วมมือกับบริษัท Smith Premier ผลิตต้นแบบ เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยขึ้น โดยได้ร่วมออกแบบและวาง ตาแหน่งตัวอักษรไทยที่จะใช้ในเครื่องพิมพ์ดีดได้สาเร็จ ลักษณะเครื่องพิมพ์ดีดไทย Smith Premier นั้น เป็นแบบ แคร่ตาย(แคร่พิมพ์ไม่เลื่อน) และมีแป้นพิมพ์ 7 แถว ไม่มี แป้นยกอักษรบน( Shift key) จึงยังไม่สามารถพิมพ์โดยวิธี พิมพ์สัมผัสได้( Touch Typing) ในปี พ.ศ.2435 ได้นาเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยเครื่อง แรกยี่ห้อ Smith Premier เข้ามาถวายรัชกาลที่ 5 ซึ่ง

พระองค์ได้ทรงทดลองพิมพ์และพอพระราชหฤทัยอย่าง มาก จึงถือได้ว่ารัชกาลที่ 5 เป็นนักพิมพ์ดีดไทยพระองค์ แรก หลังจากนั้นพระองค์ได้ทรงสั่งซื้อเครื่องพิมพ์ดีด ดังกล่าวเข้ามาใช้ในราชการสยามเป็นครั้งแรกจานวน 17 เครื่อง ต่อมาในปี พ.ศ.2438 ได้ถึงแก่กรรม กรรมสิทธิ์ใน เครื่องพิมพ์ดีด Smith Premier จึงตกแต่ (พระอาจ วิทยาคม) ผู้เป็นน้องชาย ซึ่งเป็นผู้สั่งเครื่องพิมพ์ดีดไทย Smith Premier เข้ามาวางจาหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่น แรกในปี พ.ศ.2440 โดยวางขายที่ร้านทาฟันของท่านเอง จนถึง พ.ศ.2441 จึงได้ตั้งห้างสมิทพรีเมียร์ขึ้นที่หลังวัง บูรพา ซึ่งปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างมากในวงราชการ และบริษัทห้างร้าน ในปี พ.ศ. 2458 หลังจากที่บริษัท Smith Premier ได้ ขายสิทธิการผลิตให้แก่บริษัท Remington แล้ว บริษัท Remington ได้ยกเลิกการผลิตเครื่อง Smith Premier และ หันไปผลิตเครื่องแบบยกแคร่ได้แทน แต่ไม่ค่อยได้รับความ นิยมจากคนไทยในยุคนั้น ในปี พ.ศ.2465 เดินทางไปสหรัฐอเมริกา และได้ร่วม ให้คาปรึกษาแก่บริษัท Remington ถึงการผลิตเครื่องพิมพ์ ดีดไทยขนาดเล็กที่สามารถพิมพ์สัมผัสสิบนิ้วได้ จน สามารถทาได้สาเร็จเป็นแป้นแบบ 4 แถว และได้นา เครื่องพิมพ์ดีดรุ่นดังกล่าวเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยจน

ได้รับความนิยมแทนที่เครื่อง Smith Premier ในเวลา ต่อมา แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องการพิมพ์ที่ยังขัดกับวิธีการเขียน ภาษาไทยอยู่บ้าง ต่อมา ได้ร่วมกับพนักงานในห้างของ ท่าน 2 คน ทาการออกแบบและจัดวางแป้นอักษรเสียใหม่ เพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่ โดยมีนายสวัสดิ์ มากประยูร เป็นช่าง ประดิษฐ์ก้านอักษร และนายสุวรรณประเสริฐ เกษมณี (นายกิมเฮง) เป็นผู้ออกแบบการวางตาแหน่งแป้นอักษร โดยวางตัวอักษรที่มีสถิติใช้บ่อยในตาแหน่งที่พิมพ์ได้ง่าย ซึ่งพิจารณาจากหนังสือต่างๆ จานวน 38 เล่ม รวม 167 , 456 คา โดยใช้เวลา 7 ปีจึงสาเร็จเมื่อปี พ.ศ.2474 และ เรียกแป้นชนิดนี้ว่าแป้นแบบ เกษมณี ตามชื่อผู้ออกแบบ จนกลายเป็นแป้นแบบมาตรฐานถึงปัจจุบัน ต่อมานาย สุฤษดิ์ ปัตตะโชติ ตาแหน่งนายช่างเอก กรมชลประทาน ได้ศึกษาพบว่าแป้นพิมพ์แบบเกษมณียังมีข้อบกพร่อง คือ ขาดความสมดุลในการวางตาแหน่งแป้นอักษรระหว่างมือ ซ้ายและขวา เพราะพบว่ามือขวาต้องทางานถึง 70 % ในขณะที่มือซ้ายทางานเพียง 30 % เท่านั้น และนิ้วก้อยมือ ขวาซึ่งเป็นนิ้วที่อ่อนแอกลับต้องทางานมากกว่านิ้วชี้มือ ซ้ายซึ่งแข็งแรงกว่า ส่งผลให้การพิมพ์ดีดไม่มีประสิทธิภาพ เท่าที่ควร โดยการสนับสนุนจากสภาวิจัยแห่งชาติ นายสุฤษดิ์ ปัตตะโชติ ได้ทาการศึกษาวิจัยเพื่อออกแบบตาแหน่งแป้น อักษรใหม่ที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม โดยการสุ่มเลือก

หนังสือหลากหลายสาขารวม 50 เล่ม แต่ละเล่มสุ่มออกมา 1000 ตัวอักษร รวม 50000 ตัวอักษร แล้วสารวจว่าใน 1000 ตัวอักษรนั้นมีอักษรตัวใดใช้พิมพ์มากน้อยเพียงใด ลดหลั่นกันลงมาตามลาดับ แล้วจึงนาตัวอักษรที่เก็บสถิติ ไว้นี้มาใช้เป็นแนวทางจัดวางแป้นพิมพ์ดีดใหม่ โดยถือ หลักว่าอักษรที่ใช้บ่อยให้อยู่ในตาแหน่งนิ้วที่แข็งแรงไม่เกิน 3 แถวล่างตามลาดับโดยมีแถวที่สองเป็นศูนย์กลาง จาก การทดลองและปรับปรุงจนในที่สุดก็ได้แ ป้นภาษาไทยแบบ ใหม่เรียกชื่อว่าแป้นแบบ ? ปัตตะโชติ ? ตามสกุลของ ผู้ออกแบบในปี พ.ศ.2509 ผลจากการทดลองเปรียบเทียบการสอนพิมพ์ดีดด้วย เครื่องแบบปัตตะโชติกับแบบเกษมณี จากกลุ่มตัวอย่าง 100 คน ที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ใช้เวลาฝึกหัด 100 ชั่วโมง (8 เดือน) ปรากฏว่ากลุ่มที่เรียนแบบปัตตะโชติสามารถพิมพ์ได้เร็ว กว่าถึง 26.8 % ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้รู้หลายคนออกมา วิจารณ์ถึงจุดอ่อนและความไม่เหมาะสมบางประการของ แป้นแบบปัตตะโชติ ประกอบกับคนไทยส่วนใหญ่เคยชินกับ การพิมพ์ด้วยแป้นเกษมณีแล้ว จึงทาให้แป้นแบบปัตตะโชติ ไม่ได้รับความนิยมจนหายไปในที่สุด (ปัจจุบันเหลือนัก พิมพ์ดีดรุ่นเก่าไม่กี่คนที่ยังคงใช้แป้นแบบปัตตะโชติ) แต่ เครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสามารถเลือกใช้สลับระหว่าง แป้นทั้งสองแบบได้

หน่วยที่2 การพิมพ์ศูนย์กลางตามแนวนอนและแนวตั้ ง การพิมพ์วางศูนย์กลางตามแนวนอน คือ การพิมพ์ ข้อความแบ่งข้อความให้ได้ซ้าย - ขวา เท่า ๆ กัน มีจุด กึ่งกลางกระดาษเป็นจุดแบ่ง เหลือเนื้อที่กระดาษ ซ้าย ขวา เท่า ๆ กัน วิธีวางศูนย์ตามแนวนอน 1. กดปุ่มลบระยะจากัดตอนให้หมด 2. เลื่อนแคร่มาไว้ที่จุดกึ่งหลางกระดาษ กดปุ่มตั้งระยะ 3. นับจานวนดีดทั้งหมดของข้อความที่จะพิมพ์ ได้ เท่าไร หารด้วย 2 (เศษที่เหลือปัดทิ้ง) ได้ผลลัพธ์ที่เท่าไร กดแป้นถอยหลัง การพิมพ์วางศูนย์ตามแนวตั้ง การพิมพ์เพื่อจัดข้อความให้ได้สัดส่วนกับหน้ากระดาษ โดยเหลือเนื้อที่กระดาษส่วนบน และส่วนล่างเท่า ๆ กัน วิธีการวางศูนย์แนวตั้ง (ตาแหน่งที่ถูกต้อง) 1. กดปุ่มลบระยะจากัดตอนให้หมด หาจุดกึ่งหลางกระ ดาษกดปุม่ ตั้งระยะ

2. นับจานวนหน้ากระดาษตามแนวตั้ง โดยการปัดจาก ขอบบนกรดาษลงมา จนหมดแผ่นว่ามีกี่บรรทัด 3.นับจานวนบรรทัดข้อความที่ใช้พิมพ์ว่ามีกี่บรรทัด 4. นาจานวนบรรทัดข้อ 2 ได้เท่าไร ให้ บวกเพิ่ม 1 5. ปัดกระดาษจากขอบบนสุดลงมาเท่ากับ จานวนที่ คานวณได้ในข้อ 5 การพิมพ์วางศูนย์ในตาแหน่งสาหรับอ่าน เป็นกรพิมพ์วางศูนย์ให้อยู่ในระดับสายตาเพื่อความ สะดวกเวลาอ่านวิธีการวางศูนย์ตาแหน่งสาหรับอ่านให้ ปฏิบัติ เช่น เดี่ยวกับการวางศูนย์ในตาแหน่งที่ถูกต้อง เพียงแต่เมื่อได้ผลพันธ์แล้ว ให้หักออกมา 3 บรรทัด จาก จานวนบรรทัดที่เหลือส่วนของหน้ากระดาษ ตัวอย่าง การพิมพ์วางศูนย์ตามแนวนอน 1 พิมพ์ข้อความทั้งหมดลงหน้ากระดาษ A4 โปรแกรมจะ จัดตัวอักษรชิดหน้ากระดาษทางซ้ายมือเสมอโดยจะเว้น ระยะขอบตามการตั้งค่าอัตโนมัติด้านละ 1นิ้ว

หน่วยที่ 3 การพิมพ์บัญชรหรือการพิมพ์เว้นระยะจากัด ตอน การพิมพ์บัญชรเป็นการพิมพ์ที่วางรูปแบบข้อความ ให้ห่างกันเป็นช่วง ๆ ให้ห่างกันตามความเหมาะสม การเว้น ระยะจากัดตอนให้ใช้ แทน ทุก ๆ ช่วง หากมีหัวข้อเรื่องให้ วางศูนย์กลางกระดาษ และวางศูนย์ข้อความแบบแนวนอน เมื่อพิมพ์หัวข้อเรื่องแล้ว ให้ 1 บิด 2 จึงพิมพ์ตัวบัญชร

วิธีพิมพ์บัญชร 1. กดปุ่มลบระยะจากัดตอนแล้วเลื่อนกั้นระยะออกไป ทั้งหน้า - หลัง 2. เลื่อนแคร่มาไว้ที่จุดกึ่งหลางกระดาษ 3. นับจานวนดีดของบรรทัดที่ยาวที่สุดของแต่ละ บัญชรมารวมกันบวกด้วยช่วงว่างระหว่างบัญชรได้ เท่าใดหารด้วย2ได้ผลลัพธ์เท่าใดกดแป้นถอยหลังจาก จุดกึ่งหลางกระดาษไปเท่านั้นให้เลื่อนกั้นระยะหน้ามา ไว้ที่จุดนี้ เริ่มพิมพ์ตัวแรกของบัญชรที่ 1 4. สาหรับบัญชรที่2 ให้นับจานวนดีดที่ยาวที่สุดใน บัญชรที่ 1 บวก ช่วงว่างระหว่างบัญชรที่ 1 กับบัญชรที่ 2 ได้จานวนเท่าใดให้เคาะไปเท่านั้นกดปุ่มตั้งระยะสาหรับ

พิมพ์อักษรตัวแรของบัญชรที่ 2 ถ้ามีหลายบัญชรปฏิบัติ เช่นเดียวกัน 5. เริ่มพิมพ์บัญชรได้ โดยใช้วิธีกดคานเลื่อนแทบไปยัง จุดที่ตั้งระยะจากัดตอนไว้แล้วพิมพ์ทีละบัญชรจนเสร็จ ส่วนต่างๆและรูปแบบของการพิมพ์บัญชรชนิดมีหัวข้อ เรื่อง 1.การพิมพ์หัวข้อใหญ่พิมพ์โดยการวางศูนย์แนวนอน จากศูนย์กลางกระดาษหากมีข้อความหัวข้อมากกว่า 1 บรรทัด ให้ปัด 1 และวางศูนย์ทุกบรรทัด 2.การพิมพ์หัวข้อรองพิมพ์วางศูนย์กับหัวข้อใหญ่ โดยปัด 1 จากหัวข้อใหญ่ 3.การพิมพ์หัวข้อย่อยพิมพ์ใต้หัวข้อรองหากไม่มี หัวข้อรอง ให้พิมพ์ใต้หัวข้อใหญ่ โดยปัด 1 บิด 2 4. การพิมพ์บัญชรพิมพ์ให้หัวข้อย่อยโดยปัด1 ให้แต่ ละบัญชรห่างกันอย่างเหมาะสม

หน่วยที่ 4 การแก้ไขข้อผิดพลาดในการพิมพ์ และการพิมพ์ แบ่งคา การแก้ข้อผิดพลาดในการพิมพ์และการพิมพ์แบ่งคา คือ การพิมพ์ความหรือการพิมพ์งานการผลิตต่างๆอาจมี ข้อผิดพลาดได้บางครั้งผู้พิมพ์อาจพิมพ์ผิดหรือพิมพ์ตก แบ่งคาผิดเป็นต้นถ้าผู้พิมพ์จะแก้ไขด้วยการพิมพ์ใหม่ ทั้งหมดก็จะทาให้เสียเวลามากและงานอาจเสร็จไม่ทันตาม เวลา ซ้ายังทาให้ต้องสิ้นเปลืองวัสดุฯ เพิ่มขึ้น เช่น กระดาษ ผ้าหมึกพิมพ์ดีด เป็นต้น ในกรณีที่เป็นการพิมพ์ ผิดเล็กน้อย ซึ่งผู้พิมพ์สามารถแก้ไขได้ก็ควรใช้วิธีการลบ คาผิดออกแล้วพิมพ์คาที่ถูกต้อง ด้วยวิธีการพิมพ์แทรก ตัวอักษร วิธีปฏิบัติในการแก้ไขข้อผิดพลาด 1.เมื่อพิมพ์งานเสร็จแล้วควรตรวจดูความถูกต้องให้ เรียบร้อยก่อนนากระดาษออกจากเครื่องพิมพ์ดีดการถอก ระดาษออกจากเครื่องพิมพ์โดยไม่ได้ตรวจทานก่อนว่าจะ ทาให้เสียเวลาใส่กระดาษเข้าเครื่องใหม่แนวบรรทัดจะไม่ ตรงกับบรรทัดเดิมและตัวอักษรก็อาจไม่ตรงกับรอยเดิมทา ให้เสียเวลาต้องมาปรับกระดาษใหม่

2.เทคนิคการลบคาที่พิมพ์ผิดให้หมุนลูกบิดเลื่อนไป จนถึงตาแหน่งที่ต้องการลบอยู่บนแท่นรองจากนั้นเลื่อน แคร่ออกไปสุดทางซ้ายมือหรือขวามือแล้วจึงลบคาผิดให้ สะอาดทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้เศษยางลบหล่นในตัวเครื่อง พิมพ์ดีดซึ่งจะเป็นตัวก่อปัญหาทาให้เครื่องพิมพ์ดีดฝืดและ สกปรกถ้าตาแหน่งที่ต้องการลบอยู่ในช่วงด้านล่างของ แผ่นกระดาษพิมพ์ให้ใช้วิธีหมุนลูกบิดยอนขึ้นมาทาง ด้านหลังของลูกยางและเมื่อถึงแท่นรองลบจึงลบตาม ต้องการอย่างให้เศษยางลบตกลงไปในตัวเครื่องพิมพ์ดีด วิธีลบควรลบเบาๆลบไปทางเดียวกันเพื่อป้องกันไม่ให้ กระดาษขาดเสียก่อนและยางลบไปถูกตัวอักษรที่อยู่ไกล เคียง 3.ปรับแนวบรรทัดให้อยู่ในตาแหน่งเดิมเลื่อนหัวพิมพ์ มายังรอยที่ต้องการพิมพ์ 4. ปรับปุ่มบังคับผ้าหมึกไปอยู่ที่ปมุ่ สีขาว แล้วเคาะเบา ๆ ดูว่าตัวอักษรที่ต้องการตรงรอยเดิมตรงกับตาแหน่งที่ ต้องการแล้วจึงปรับปุม่ ผ้าหมึกพิมพ์มาที่ปุ่มสีน้าเงินผ้าหมึก จะพิมพ์ได้ตามปกติก่อนพิมพ์ให้กดแป้นถอยหลัง1ครั้งเมื่อ อยูใ่ นตาแหน่งเดิมที่ต้องการแล้วจึงพิมพ์ตัวอักษรที่ถูกต้อง ลงไป

วิธีปฏิบัติในการแก้ไขข้อผิดพลาดในการพิมพ์งานด้วย โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ห หากต้องการแก้ไขข้อผิดพลาดในการพิมพ์โปรแกรม สามารถแก้ไขได้โดยง่าย เช่น ต้องการแก้ไขคาว่า บรรชร เป็น บัญชร ทาได้โดยใช้ปุ่มที่แป้นคีย์บอร์ด คือปุ่ม หรือปุ่ม โดยหากว่า เคอร์เซอร์ที่หลังตัวอักษร บ ในคาว่า บรรชร ให้ กดปุ่ม 2 ครั้ง หรือวางเคอร์เชอร์ที่หลังตัวอักษร รร ควรใช้ ปุ่ม 2 ครั้ง เพื่อลบ รร ออกไปแล้วพิมพ์ ัญ แทรกอีกครั้ง

พิมพ์แบ่งคาการ การพิมพ์แบ่งคา คือ การพิมพ์คาให้อยู่บรรทัดียวกั เ นมไี ได้ เนื่องจากใกล้สิ้นสุดบรรทัดพิมพ์จาเป็นจะต้องตัดแบ่ง

คาเพื่อขึ้นบรรทัดใหม่ การตัดแบ่งคาขึ้นบรรทัดใหม่ ผู้เรียน จะต้องรู้หลักเกณฑ์ในการแล่งคา เพื่อจะไม่ให่คาๆ น้น ขาดความหมาย หรือความหมายเปลี่ยนไปจากเดิม

หลักเกณฑ์ในการแล่งคามีดังต่อไปนี้ 1. ไม่ควรแบ่งคาที่เป็น ชื่อบุคคล ชื่อย่อ อักษรย่อ 2. ไม่แบ่งคาที่เป็นจานวนตัวเลข เช่น จานวนเงิน 200 บาท 3. ไม่แบ่งคาที่มีพยางค์เดียว เช่น เคราะห์ ทราบ เกณฑ์ 4. ไม่แบ่งคาโดยบรรทัดใหม่มีเปลืออยู่เพีง2 ตัวอักษร เช่น เกษตรกร แบ่งเป็น เกษตร - กร

5. ไม่แบ่งคาที่มีอักษรตัวเดียวที่ต้นคา เช่น ปฏิทิน เกษตร พยาน