Data Loading...

ประวัติพิมพ์ไทย Flipbook PDF

ผลงานชี้เป็นผลงานของ นส.ณัชปภา เจริงสุข


114 Views
36 Downloads
FLIP PDF 215.43KB

DOWNLOAD FLIP

REPORT DMCA

รายงาน เรื่อง ประวัติความเป็นมาของพิมพ์ดีดไทย จัดทาโดย นางสาว ณัชปภา เจริญสุข ชั้น ป ว ช.1 แผนกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ เสนอ คุณครู รุจิฬา เพียรอดวงษ์

คำนำ หนังสือเรียน วิชาพิมพ์ไทยขั้นพัฒนา รหัสวิชา 2203-2101 เล่มนี้ ได้ เรียบเรียงขึ้นตรงตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พ.ศ. 2556 ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษามุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะในการพิมพ์ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบฐาน สมรรถนะอาชีพ และบูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนา ให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เนื้อหาวิชาพิมพ์ดีดไทยขั้นพัฒนา ประกอบด้วย ความรู้เบื้องต้ ่ น เกี่ยวกับการใช้เครื่องพิมพ์และเครื่องคอมพิวเตอร์ การพิมพ์วางศูนย์ การ พิมพ์บัญชร การแก้ไขข้อผิดลาดในการพิมพ์ และการพิมพ์แบ่งคา การ พิมพ์หนังสือราชการ การพิมพ์จดหมายธุรกิจไทยแบบราชการ จดหมาย ธุรกิจไทยแบบต่างประเทศ การพิมพ์จากร่างและการฝึกพิมพ์เพื่อพัฒนา ทักษะความแม่นยา ซึ่งในแต่ละบทเรียนจะมีแบบฝึกพิมพ์เพื่อให้ผู้เรียนได้ ใช้ฝึกปฏิบัติ และทบทวนบทเรียนที่ได้จัดไว้ให้ จึงจะทาให้สามารถบรรลุ ตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ผู้เรียบเรียงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะมีประโยชน์ต่อการเรียน การสอนโดยการนามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม

สำรบัญ หน่วยที่ 1 ความรูเ้ บื้องต้นเกี่ยวกับการใช้เครื่องพิมพ์ดีดและเครื่อง คอมพิวเตอร์และประวัติพิมพ์ดีดไทย หน่วยที่ 2 การพิมพ์วางศูนย์ตามแนวนอนและแนวตั้ง หน่วยที่ 3 การพิมพ์บัญชร หรือการพิมพ์เว้นระยะจากัดตอน หน่วยที่ 4 การแก้ไขขอผิดพลาดในการพิมพ์ และการพิมพ์แบ่งคา

หน่วยที่ 1 ควำมรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกำรใช้เครื่องพิมพ์ดีดและ เครื่องคอมพิวเตอร์และประวัตพิ ิมพ์ดีดไทย ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้เครื่องพิมพ์เอกสาร ในยุคแรกของการผลิตเอกสารจะจัดทาเอกสารหนังสือต่าง ๆ โดยการ เขียนด้วยลายมือต่อมาปี พ.ศ.2416 จึงมีการผลิตเครื่องพิมพ์ดีดมาตรฐาน ออกสู่ตลาด สาหรับพิมพ์ดีดไทยได้มีการปรับปรุงเครื่องพิมพ์ดีดให้เป็น แบบที่สามารถเลื่อนและยกแคร่อักษรได้ในปี พ.ศ. 2474 ทาให้ผู้พิมพ์ สามารถพิมพ์ได้ถนัดและรวดเร็ว มีการออกแบบแป้งอักษรแบบใหม่ เรียกว่า แป้นแบบเกษมณี ตามนามสกุลของผู้ออกแบบแป้งเกษมณีมีการ วางรูปการจัดวางตัวอักษรในแป้งเหย้า เป็น ฟ ห ก ด ่ า ส ว กำรบำรุงรักษำเครื่องพิมพ์ดีด เครื่องพิมพ์ดีดเป็นอุปกรณ์สานักงานที่ต้องดูแลรักษาให้อยู่สภาพที่ สามารถทางานได้ดีมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานได้ยาวนาน กิจ นิสัยที่ดีของผู้ใช้เครื่องพิมพ์ดีดก็คือหมั่นดูแลรักษาเครื่องพิมพ์ดีดเป็น ประจาสม่าเสมอควรปฏิบัติ ดังนี้ 1. ตรวจเช็คสภาพเครื่องพิมพ์ดีดก่อนใช้ทุกครั้ง 2. เมื่อเลิกใช้เครื่องฯ ให้ยกลูกยางทับกระดาษขึ้น และปรับก้านคลาย กระดาษให้อยู่ในตาแหน่งคลายเพื่อมิให้ลูกยางทักบกระดาษกดลูกยาง ใหญ่ไว้ตลอกเวลา เป็นการช่วยยืดอายุลูกย่างใหญ่ 3. หลังเลิกใช้เครื่องฯ ควรเลื่อนแคร่มาไว้ตรงกลางเครื่องฯ แล้วนาผ้า คลุมเครื่องพิมพ์ดีดคลุมให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันฝุ่นละออง

4. การทาความสะดาดเครื่องพิมพ์ดีด อาจจะทาทุกเดือนด้วยการเป่า เอาฝ่้นละอองและเศษผงต่าง ๆ ออกโดยใช้แปรงขนอ่อนปัดเศษยางลบ หรือฝุ่นละอองภายในเครื่องฯ ออก แล้วใช้เครื่องเป่าลมเป่าฝุ่นออกอีก ครั้ง 5. การทาความสะอาดก้านอักษร ควรใช้แปรงขนสั้นแปรงก้านอักษร ทุกตัว เพื่อให้ฝุ่นที่เกาะอยู่หลุดออกจากก้านอักษร โดยแปรงเบา ๆจะทา ให้ตัวอักษรมีความคมชัด 6. การทาความสะอาดลูกยางใหญ่ ให้ใช้ผ้าหรือสาลีชุบแอลกอฮอล์พอ หมาด เขตทาความสะอาดลูกยางใหญ่ และลูกยางป้อนกระดาษ เพื่อให้ ลูกยางสะอาดและมีอายุการใช้งานยาวนาน 7. การใช้น้ามันหล่อลื่น ในบางจุดของเครื่องพิมพ์ดีดควรหยอดน้ามัน เล็กน้อย เพื่อให้เครื่องฯ มีความคล่องตัวฝืด ถ้าหยอกน้ามันปริมาณมาก เกินไปทาให้เหนียว และเป็นตัวทาให้ฝุ่นเกาะได้มากขึ้นถ้าไปโดนลูกยาง อาจทาให้ลูกยางบวมได้ กำรบำรุงรักษำเครือ่ งพิมพ์ดีดไฟฟ้ำ เพื่อให้เครื่องพิมพ์ดีดๆฟฟ้าอยู่ในสภาพสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี มี ประสิทธิภาพสูงสุด จงควรดูแลและบารุงรักษาเครื่องพิมพ์ดีดๆไฟฟ้าเป็น ประจาสม่าเสมอควรปฏิบัติ ดังนี้ 1. ศึกษาคู่มือ ขั้นตอวิธีการใช้เครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า 2. ทุกครั้งที่ทาความสะอาดต้องถอดปลั๊กไฟฟ้าออกก่อน 3. ใช้ผ้าแห้งสะกดทาความสะอาดเครื่อง ห้ามใช้น้า อินเตอร์ หรือ แอลกอฮอล์ทาความสะอาดเครื่อง

4. การใส่และถอดจานพิมพ์ ผ้าหมึกพิมพ์ เทปลบคาผิด ให้ใส่ด้วยความ ระมัดระวัง 5. ไม่ควรพิมพ์ดีดโดยไม่มีกระดาษพิมพ์ เพราะจะทาให้ลูกยางใหญ่และ จานพิมพ์ชารุดได้ เครื่องคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทสาคัญและเป็นอุปกรณ์ สานักงานที่จาเป็น เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่อานวยความ สะดวกในด้านการจัดเก็บข้อมูลด้านเอกสาร ด้านการจัดพิมพ์และผลิต เอกสารต่าง ๆ ด้านการประเมินผล เป็นต้น คอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาให้มี รูปทรงที่ทันสมัย อุปกรณ์เสริมภายในตัวเครื่องถูกพัฒนาให้สะดวกต่อการ ใช้งานมากขึ้น กำรบำรุงรักษำเครือ่ งคอมพิวเตอร์เบือ้ งต้น 1. ทาความสะอาดอุปกรณ์ที่อยู่ภายนอกเครือ่ ง เช่น จอภาพ คีลย์บอร์ด ปริ้นเตอร์ และเมาส์ เป็นต้น ก่อนเริ่มทาความสะอาด ผู้ใช้ควร ถอดปล็กออกก่อน และทาความสะอาด 2. กาจัดฝุ่นละอองที่อยู่บนตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ฝุ่นละอองที่มาเกาะ เครื่องคอมพิวเตอร์ทาให้เครื่องคอมพิวเตอร์ดูสกปรก ให้ใช้เครื่องเป่าฝุ่น หรือเครื่องเป่าลม มาเป่าส่วนต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อไล่ฝุ่น ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ 3. การตรวจเช็คความเรียบร้อยของเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้อยู่ในสภาพที่ พร้อมใช้งานได้ดี เช่น ไม่ควรวางเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ในที่ที่มีอณ ุ ภูมิสูง เกินไป เพราะทาให้เครื่องเกิดความร้อนได้ง่าย

ประโยชน์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ 1. เครื่องพิมพ์ดีดแบบธรรมด่า เป็นเครื่องพิมพ์ดีดที่ต้องใช้แรงในการ กดแป้นพอสมควร เหมาะสาหรับการเรียนการฝึกพิมพ์สัมผัส 2. เครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า เป็นเครื่องพิมพ์ดีดที่ผ่อนแรงพนักงานพิมพ์ เหมาะกับงานพิมพ์เอกสารที่มีปริมาณมากๆ เช่น การพิมพ์รายงาน การ พิมพ์รายงานวิจัย 3. เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่จาเป็นอย่างยิ่งสาหรับสานักงานใน ยุคปัจจุบัน คอมพิวเตอร์นามาใช้ด้านเอกสารการพิมพ์ เช่น พิมพ์จดหมาย พิมพ์รายงาน งานวิจัย

ประวัติควำมเป็นมำของเครื่องพิมพ์ดีดภำษำไทย ประวัติเครือ่ งพิมพ์ดีดภำษำไทย เครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยกาเนิดขึ้นในรัชสมัยพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อ หมอสอนศาสนาชาวอเมริกันที่เกิดในประเทศ ไทย ซึ่งมีตาแหน่งเป็นเลขานุการส่วนพระองค์ ในสมเด็จกรมพระยาดารง ราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ได้เกิดความคิดที่จะสร้างเครื่อง พิมพ์ดีดภาษาไทยขึ้น พ.ศ.2434 เขาได้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อ สารวจว่าจะมีบริษัทใดที่สนใจผลิตเครื่องพิมพ์ดีดเป็นภาษาไทยบ้าง ซึ่งก็ พบว่าบริษัท Smith Premier ในเมือง New York สนใจที่จะร่วมผลิต ดังนั้น จึงได้รว่ มมือกับบริษัท Smith Premier ผลิตต้นแบบเครื่องพิมพ์ ดีดภาษาไทยขึ้น โดยได้ร่วมออกแบบและวางตาแหน่งตัวอักษรไทยที่จะใช้ ในเครื่องพิมพ์ดีดได้สาเร็จลักษณะเครื่องพิมพ์ดีดไทย Smith Premier

นั้น เป็นแบบแคร่ตาย(แคร่พิมพ์ไม่เลื่อน) และมีแป้นพิมพ์ 7 แถว ไม่มี แป้นยกอักษรบน( Shift key) จึงยังไม่สามารถพิมพ์โดยวิธีพิมพ์สัมผัสได้( Touch Typing) ในปี พ.ศ.2435 ได้นาเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยเครื่องแรกยี่ห้อ Smith Premier เข้ามาถวายรัชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์ได้ทรงทดลองพิมพ์ และพอพระราชหฤทัยอย่างมาก จึงถือได้ว่ารัชกาลที่ 5 เป็นนักพิมพ์ดีด ไทยพระองค์แรก หลังจากนั้นพระองค์ได้ทรงสั่งซื้อเครื่องพิมพ์ดีดดังกล่าว เข้ามาใช้ในราชการสยามเป็นครั้งแรกจานวน 17 เครื่อง ต่อมาในปี พ.ศ. 2438 ได้ถึงแก่กรรม กรรมสิทธิ์ในเครื่องพิมพ์ดีด Smith Premier จึงตก แต่ (พระอาจวิทยาคม) ผู้เป็นน้องชาย ซึ่งเป็นผู้สั่งเครื่องพิมพ์ดีดไทย Smith Premier เข้ามาวางจาหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นแรกในปี พ.ศ. 2440 โดยวางขายที่ร้านทาฟันของท่านเอง จนถึง พ.ศ.2441 จึงได้ตั้งห้าง สมิตพรีเมียร์ขึ้นที่หลังวังบูรพา ซึ่งปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างมากใน วงราชการและบริษัทห้างร้าน ในปี พ.ศ. 2458 หลังจากที่บริษัท Smith Premier ได้ขายสิทธิการ ผลิตให้แก่บริษัท Remington แล้ว บริษัท Remington ได้ยกเลิกการ ผลิตเครื่อง Smith Premier และหันไปผลิตเครื่องแบบยกแคร่ได้แทน แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากคนไทยในยุคนั้น ในปี พ.ศ.2465 เดินทางไปสหรัฐอเมริกา และได้ร่วมให้คาปรึกษาแก่ บริษัท Remington ถึงการผลิตเครื่องพิมพ์ดีดไทยขนาดเล็กที่สามารถ พิมพ์สัมผัสสิบนิ้วได้ จนสามารถทาได้สาเร็จเป็นแป้นแบบ 4 แถว และได้ นาเครื่องพิมพ์ดีดรุ่นดังกล่าวเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยจนได้รับความ นิยมแทนที่เครื่อง Smith Premier ในเวลาต่อมา แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่อง

การพิมพ์ที่ยังขัดกับวิธีการเขียนภาษาไทยอยู่บ้าง ต่อมา ได้ร่วมกับ พนักงานในห้างของท่าน 2 คน ทาการออกแบบและจัดวางแป้นอักษรเสีย ใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่ โดยมีนายสวัสดิ์ มากประยูร เป็นช่างประดิษฐ์ ก้านอักษร และนายสุวรรณประเสริฐ เกษมณี (นายกิมเฮง) เป็น ผู้ออกแบบการวางตาแหน่งแป้นอักษร โดยวางตัวอักษรที่มีสถิติใช้บ่อยใน ตาแหน่งที่พิมพ์ได้ง่าย ซึ่งพิจารณาจากหนังสือต่างๆ จานวน 38 เล่ม รวม 167 , 456 คา โดยใช้เวลา 7 ปีจึงสาเร็จเมื่อปี พ.ศ.2474 และเรียกแป้น ชนิดนีว้ ่าแป้นแบบ ? เกษมณี ? ตามชื่อผู้ออกแบบ จนกลายเป็นแป้นแบบ มาตรฐานถึงปัจจุบัน ต่อมานายสฤษดิ์ ปัตตะโชติ ตาแหน่งนายช่างเอก กรมชลประทาน ได้ศึกษาพบว่าแป้นพิมพ์แบบเกษมณียังมีข้อบกพร่อง คือขาดความสมดุลในการวางตาแหน่งแป้นอักษรระหว่างมือซ้ายและขวา เพราะพบว่ามือขวาต้องทางานถึง 70 % ในขณะที่มือซ้ายทางานเพียง 30 % เท่านั้น และนิ้วก้อยมือขวาซึ่งเป็นนิ้วที่อ่อนแอกลับต้องทางานมากกว่า นิ้วชี้มือซ้ายซึ่งแข็งแรงกว่า ส่งผลให้การพิมพ์ดีดไม่มีประสิทธิภาพ เท่าที่ควร โดยการสนับสนุนจากสภาวิจัยแห่งชาติ นายสฤษดิ์ ปัตตะโชติ ได้ ทาการศึกษาวิจัยเพื่อออกแบบตาแหน่งแป้นอักษรใหม่ที่มีประสิทธิภาพ กว่าเดิม โดยการสุ่มเลือกหนังสือหลากหลายสาขารวม 50 เล่ม แต่ละเล่ม สุ่มออกมา 1000 ตัวอักษร รวม 50000 ตัวอักษร แล้วสารวจว่าใน 1000 ตัวอักษรนั้นมีอักษรตัวใดใช้พิมพ์มากน้อยเพียงใดลดหลั่นกันลงมา ตามลาดับ แล้วจึงนาตัวอักษรที่เก็บสถิติไว้นี้มาใช้เป็นแนวทางจัดวาง แป้นพิมพ์ดีดใหม่ โดยถือหลักว่าอักษรที่ใช้บ่อยให้อยู่ในตาแหน่งนิ้วที่ แข็งแรงไม่เกิน 3 แถวล่างตามลาดับโดยมีแถวที่สองเป็นศูนย์กลาง จาการ

ทดลองและปรับปรุงจนในที่สุดก็ได้แป้นภาษาไทยแบบใหม่เรียกชื่อว่า แป้นแบบ ? ปัตตะโชติ ? ตามสกุลของผู้ออกแบบในปี พ.ศ.2509 ผลจากการทดลองเปรียบเทียบการสอนพิมพ์ดีดด้วยเครื่องแบบปัตตะ โชติกับแบบเกษมณี จากกลุ่มตัวอย่าง 100 คน ที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ใช้เวลา ฝึกหัด 100 ชั่วโมง (8 เดือน) ปรากฏว่ากลุ่มที่เรียนแบบปัตตะโชติ สามารถพิมพ์ได้เร็วกว่าถึง 26.8 % ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้รู้หลายคนออกมา วิจารณ์ถึงจุดอ่อนและความไม่เหมาะสมบางประการของแป้นแบบปัตตะ โชติ ประกอบกับคนไทยส่วนใหญ่เคยชินกับการพิมพ์ด้วยแป้นเกษมณี แล้ว จึงทาให้แป้นแบบปัตตะโชติไม่ได้รับความนิยมจนหายไปในที่สุด (ปัจจุบันเหลือนักพิมพ์ดีดรุ่นเก่าไม่กี่คนที่ยังคงใช้แป้นแบบปัตตะโชติ) แต่ เครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันสามารถเลือกใช้สลับระหว่างแป้นทั้งสอง แบบได้

หน่วยที่ 2 กำรพิมพ์วำงศูนย์ตำมแนวนอนและแนวตั้ง การพิมพ์ศูนย์กลางตามแนวนอนและแนวตั้ง การพิมพ์วางศูนย์กลางตามแนวนอน คือ การพิมพ์ข้อความหมาย แบ่งข้อความให้ได้ซ้าย - ขวา เท่า ๆ กัน มีจุดกึ่งกลางกระดาษเป็นจุดแบ่ง เหลือเนื้อที่กระดาษ ซ้าย - ขวา เท่า ๆ กัน วิธีวำงศูนย์ตำมแนวนอน 1. กดปุ่มลบระยะจากัดตอนให้หมด 2. เลื่อนแคร่มาไว้ที่จุดกึ่งหลางกระดาษ กดปุ่มตั้งระยะ

3. นับจานวนดีดทั้งหมดของข้อความที่จะพิมพ์ ได้เท่าไร หารด้วย 2 (เศษทีเ่ หลือปัดทิ้ง) ได้ผลลัพธ์ที่เท่าไร กดแป้นถอยหลัง กำรพิมพ์วำงศูนย์ตำมแนวตั้ง การพิมพ์เพื่อจัดข้อความให้ได้สัดส่วนกับหน้ากระดาษ โดยเหลือเนื้อที่ กระดาษส่วนบน และส่วนล่างเท่า ๆ กัน วิธีกำรวำงศูนย์แนวตั้ง (ตำแหน่งที่ถูกต้อง) 1. กดปุ่มลบระยะจากัดตอนให้หมด หาจุดกึ่งหลางกระดาษกดป่มตั้ง ระยะ 2. นับจานวนบรรทัดหน้ากระดาษตามแนวตั้ง โดยการปัดจากขอบบน กรดาษลงมา จนหมดแผ่นว่ามีกี่บรรทัด 3.นับจานวนบรรทัดข้อความที่ใช้พิมพ์ว่ามีกี่บรรทัด 4. นาจานวนบันทันข้อ 2 ได้เท่าไร ให้ บวกเพิ่ม 1 5. ปัดกระดาษจากขอบบนสุดลงมาเท่ากับ จานวนที่คานวณได้ในข้อ กำรพิมพ์วำงศูนย์ในตำแหน่งสำหรับอ่ำน เป็นกรพิมพ์วางศูนย์ให้อยู่ในระดับสายตาเพื่อความสะดวกเวลาอ่าน วิธีการวางศูนย์ตาแหน่งสาหรับอ่านให้ปฏิบัติเช่นเดี่ยวการวางศูนย์ใน ตาแหน่งทีถ่ ูกต้อง เพียงแต่เมื่อได้ผลลัพธ์ แล้ว ให้หักออกมา 3 บรรทัด จากจานวนบรรทัดที่เหลือส่วนของหน้ากระดาษ

ตัวอย่ำง กำรพิมพ์วำงศูนย์ตำมแนวนอน 1. พิมพ์ข้อความทั้งหมดลงหน้ากระดาษ A4 โปรแกรมจะจัดตัวอักษร ชิดหน้ากระดาษทางซ้ายมือเสมอโดยจะเว้นระยะขอบตามการตั้งค่า อัตโนมัติด้านละ 1นิ้ว

หน่วยที่ 3 กำรพิมพ์บัญชร หรือกำรพิมพ์เว้นระยะจำกัดตอน การพิมพ์บัญชร เป็นการพิมพ์ที่วางรูปแบบข้อความให้ห่างกันเป็นช่วง ๆ ให้ห่างกันตามความเหมาะสม การเว้นระยะจากัดตอนให้ใช้ แทน ทุก ๆ ช่วง หากมีหัวข้อเรื่องให้วางศูนย์กลางกระดาษ และวางศูนย์ข้อความแบบ แนวนอน เมื่อพิมพ์หัวข้อเรื่องแล้ว ให้ 1 บิด 2 จึงพิมพ์ตัวบัญชร วิธีพิมพ์บัญชร 1. กดปุ่มลบระยะจากัดตอน แล้วเลื่อนกั้นระยะออกไปทั้งหน้า - หลัง 2. เลื่อนแคร่มาไว้ที่จุดกึ่งหลางกระดาษ 3. นับจานวนดีดของบรรทัดที่ยาวที่สุดของแต่ละบัญชรมารวมกัน บวกด้วยช่วงว่างระหว่างบัญชรได้เท่าใด หารด้วย 2 ได้ผลลัพธ์เท่าใด กด แป้นถอยหลังจากจุดกึ่งหลางกระดาษไปเท่านั้น ให้เลื่อนกั้นระยะหน้ามา ไว้ที่จุดนี้ เริ่มพิมพ์ตัวแรกของบัญชรที่ 1 4. สาหรับบัญชรที่ 2 ให้นับจานวนดีดที่ยาวที่สุดในบัญชรที่ 1 บวก ช่วงว่างระหว่างบัญชรที่ 1 กับบัญชรที่ 2 ได้จานวนเท่าใด ให้เคาะไป เท่านั้น กดปุ่มตั้งระยะ สาหรับพิมพ์อักษรตัวแรของบัญชรที่ 2 ถ้ามีหลาย บัญชรปฏิบัติเช่นเดียวกัน

5. เริ่มพิมพ์บัญชรได้ โดยใช้วิธีกดคานเลื่อนแทบ ไปยังจุดที่ตั้งระยะ จากัดตอนไว้แล้วพิมพ์ทีละบัญชรจนเสร็จ ส่วนต่าง ๆ และรูปแบบของการพิมพ์บัญชรชนิดมีหัวข้อเรื่อง 1. การพิมพ์หัวข้อใหญ่ พิมพ์โดยการวางศูนย์แนวนอนจากศูนย์กลาง กระดาษหากมีข้อความหัวข้อมากกว่า 1 บรรทัด ให้ปัด 1 และวางศูนย์ ทุกบรรทัด 2. การพิมพ์หัวข้อรอง พิมพ์วางศูนย์กับหัวข้อใหญ่ โดยปัด 1 จาก หัวข้อใหญ่ 3. การพิมพ์หัวข้อย่อย พิมพ์ใต้หัวข้อรอง หากไม่มีหัวข้อรอง ให้พิมพ์ ใต้หัวข้อใหญ่ โดยปัด 1 บิด 2 4. การพิมพ์บัญชร พิมพ์ให้หัวข้อย่อย โดยปัด1 ให้แต่ละบัญชรห่างกัน อย่างเหมาะสม หน่วยที่ 4 การแก้ไขข้อผิดพลาดในการพิมพ์ และการพิมพ์แบ่งคา การแก้ข้อผิดพลาดในการพิมพ์และการพิมพ์แบ่งคา คือ การพิมพ์ความ หรือการพิมพ์งานการผลิตต่าง ๆ อาจมีข้อผิดพลาดได้ บางครั้งผู้พิมพ์อาจ พิมพ์ผิดหรือพิมพ์ตก แบ่งคาผิด เป็นต้น ถ้าผู้พิมพ์จะแก้ไขด้วยการพิมพ์ ใหม่ทั้งหมด ก็จะทาให้เสียเวลามาก และงานอาจเสร็จไม่ทันตามเวลา ซ้า ยังทาให้ต้องสิ้นเปลืองวัสดุฯ เพิ่มขึ้น เช่น กระดาษ ผ้าหมึกพิมพ์ดีด เป็น ต้น ในกรณีที่เป็นการพิมพ์ผิดเล็กน้อย ซึ่งผู้พิมพ์สามารถแก้ไขได้ก็ควรให้ วิธีการลบคาผิดออกแล้วพิมพ์คาที่ถูกต้อง ด้วยวิธีการพิมพ์แทรกตัวอักษร วิธีปฏิบัติในกำรแก้ไขข้อผิดพลำด

1. เมื่อพิมพ์งานเสร็จแล้วควรตรวจดูความถูกต้องให้เรียบร้อยก่อนนา กระดาษออกจากเครื่องพิมพ์ดีดการถอกระดาษออกจากเครื่องพิมพ์โดย ไม่ได้ตรวจทานก่อนว่าจะทาให้เสียเวลาใส่กระดาษเข้าเครื่องใหม่แนว บรรทัดจะไม่ตรงกับบรรทัดเดิม และตัวอักษรก็อาจไม่ตรงกับรอยเดิม ทา ให้เสียเวลาต้องมาปรับกระดาษใหม่ 2. เทคนิคการลบคาที่พิมพ์ผิดให้หมุนลูกบิดเลื่อนไปจนถึงตาแหน่งที่ ต้องการลบอยู่บนแท่นรองลบจากนั้นเลื่อนแคร่ออกไปสุดทางซ้ายมือ หรือ ขวามือ แล้วจึงลบคาผิดให้สะอาด ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้เศษยางลบหล่นใน ตัวเครื่องพิมพ์ดีด ซึ่งจะเป็นตัวก่อปัญหาทาให้เครื่องพิมพ์ดีด ฝืดและ สกปรก ถ้าตาแหน่งที่ต้องการลบอยู่ในช่วงด้านล่างของแผ่นกระดาษพิมพ์ ให้ใช้วิธีหมุนลูกบิดยอนขึ้นมาทางด้านหลังของลูกยาง และเมื่อถึงแท่นรอง ลบ จึงลบตามต้องการอย่าให้เศษยางลบตกลงไปในตัวเครื่องพิมพ์ดีด วิธี ลบควรลบเบา ๆ ลบไปทางเดียวกันเพือ่ ป้องกันไม่ให้กระดาษขาดเสียก่อน และยางลบไปถูกตัอวอักษรที่อยู๋ใหล้เคียง3. ปรับแนวบรรทัดให้อยู่ใน ตาแหน่งเดิม เลื่อนหัวพิมพ์มายังรอยที่ต้องการพิมพ์ 4. ปรับปุ่มบังคับผ้าหมึกไปอยู่ที่ปุ่มสีขาว แล้วเคาะเบา ๆ ดูว่า ตัวอักษรที่ต้องการตรงรอยเดิมตรงกับตาแหน่งที่ต้องการแล้ว จึงปรับปุ่ม ผ้าหมึกพิมพ์มาที่ปุ่มสีน้าเงิน ผ้าหมึกจะพิมพ์ได้ตามปกติ ก่อนพิมพ์ให้กด แป้นถอยหลัง 1 ครั้ง เมื่ออยูใ่ นตาแหน่งเดิมที่ต้องการแล้วจึงพิมพ์ ตัวอักษรที่ถูกต้องลงไป